แอตต้าชี้อย่าตระหนก 'ปิดประเทศ' เมินจีน จ่อโรดโชว์หลังคุมโรคได้

แอตต้าชี้อย่าตระหนก 'ปิดประเทศ' เมินจีน จ่อโรดโชว์หลังคุมโรคได้

“แอตต้า” วอนอย่าตระหนกการแพร่ระบาดไวรัสอู่ฮั่นถึงขั้นปิดประเทศ ระบุทัวร์จีนตกค้างไทยกลับประเทศหมดภายใน 3-5 ก.พ.นี้ เตรียมจัดบิ๊กโรดโชว์ในจีน หลังคุมการแพร่ระบาดของโรคสำเร็จ ด้านบริษัททัวร์กุมขมับ หลังโรงแรมบางแห่งไม่คืนเงินลูกค้าทัวร์จีน

วานนี้ (30 ม.ค.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า ได้ประชุมร่วมกับสมาชิกเกี่ยวกับสถานการณ์และผลกระทบจากไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นที่มีต่อการท่องเที่ยวไทย หลังจากสำนักกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้ออกประกาศด่วนเมื่อวันที่24ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงกลุ่มบริษัททัวร์ในประเทศจีนให้หยุดดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยว เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้บริษัททัวร์ในไทยที่รับลูกทัวร์ต่อจากฝั่งจีนได้รับผลกระทบอย่างมาก

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ (31 ม.ค.) เป็นต้นไป จะไม่มีกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนเดินทางเข้าไทยกับบริษัททัวร์ที่เป็นสมาชิกแอตต้าแล้ว และน่าจะกลับประเทศจีนทั้งหมดภายในวันที่3-5ก.พ.นี้ ส่วนตลาดกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) และนักธุรกิจชาวจีนยังมีบางส่วนที่เดินทางมาไทย จากจำนวนชาวจีนเที่ยวไทยเฉลี่ย9แสนคนต่อเดือน หรือวันละ3หมื่นคน

“ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจีนเขาจะกลับอยู่แล้ว เขาไม่มาแล้ว เพราะฉะนั้นที่บอกว่าไทยเราควรปิดประเทศ อย่าให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามานั้น ไม่ต้องพูด เพราะเขาไม่มาแล้ว จะทำให้ชาวจีนเสียความรู้สึกเปล่าๆ โดยมองว่าต้องดูแลชาวจีนที่ยังอยู่ในไทยให้ดีๆ ส่งเขากลับดีๆ พอคนใหม่ไม่เข้ามา คนเก่าก็กลับไป จึงประเมินว่าภายใน7-10วันนับจากนี้ ตัวเลขยอดผู้ป่วยในไทยน่าจะนิ่งและมีโอกาสลดลงเรื่อยๆ และสิ่งที่ต้องทำคือเร่งสร้างความเชื่อมั่นก่อนเป็นลำดับแรก”

บ.ทัวร์อ่วมโรงแรมไม่คืนค่าห้อง

นางอัญชลี มุตตามระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันนี่ซันฟลาวเวอร์ จำกัด หนึ่งในตัวแทนบริษัททัวร์ที่เข้าร่วมประชุม กล่าวว่า บริษัทฯเน้นทำทัวร์จีน ขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เข้าใจว่าเจ็บกันทุกคน แต่ที่สะเทือนใจมากคือโรงแรมบางแห่งไม่ยอมคืนเงินให้ลูกค้า เอเย่นต์ทัวร์ที่เป็นตัวกลางจึงลำบากใจมาก เพราะเมื่อเจรจากับโรงแรมบางแห่งกลับได้รับคำตอบว่า ให้ไปเอาใบรับรองแพทย์ของนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่เดินทางมาว่าไม่สบาย ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จึงเดินทางมาไม่ได้ และขอจดหมายยืนยันจากรัฐบาลจีนที่ห้ามนักท่องเที่ยวจีนออกนอกประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นจะเก็บเงินค่าธรรมเนียมการยกเลิกจองห้องพัก(Cancellation Charge)

ขณะที่บางโรงแรมยินดีไม่เก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเลย อนุโลมให้เลื่อนเวลาเข้าพักแก่ลูกค้าออกไปอีก3-6เดือน แต่ก็มีบางโรงแรมมากำหนดอีกว่าเลื่อนเข้าพักได้ก็จริง แต่ต้องเป็นชื่อของลูกค้าคนเดิมเท่านั้น จึงมองว่าเรื่องนี้ต้องช่วยกันทุกฝ่าย โดยอยากให้แอตต้าประสานไปยังสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เกี่ยวกับเรื่องนี้

จี้ส.โรงแรมเว้นค่าต๋งเลิกห้องพัก

นายวิชิต กล่าวถึงกรณีนี้ว่า แอตต้าได้ทำหนังสือถึงสมาคมโรงแรมไทย ขอให้ยกเว้นหรืออนุโลมการเก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิกจองห้องพักจากบริษัททัวร์ซึ่งกำลังเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้ เพราะจำเป็นต้องคืนเงินแก่นักท่องเที่ยวจีน โดยทางทีเอชเอแจ้งมาว่าจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเร็วๆ นี้

นายกฯแอตต้า ยังระบุด้วยว่า หลังจากจีนยุติการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบฯได้ แอตต้าจะจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายครั้งใหญ่ที่จีนเพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับมา ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้อินเตอร์ฯที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีแนวคิดก่อนหน้านี้ มองว่าคุ้มในการดึงตลาดนักท่องเที่ยวขาเข้า (อินบาวด์) เช่น อาจจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวมูลค่า 3,000บาท แต่ได้เงินกลับเข้าประเทศ50,000บาทต่อคน เพราะมีวิธีเยอะมาก อยู่ที่ว่าจะเลือกวิธีไหนมาใช้อย่างเหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวตอนนี้ชอบโปรโมชั่น อย่างในบางประเทศก็ใช้วิธีการคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน เช่น เกาหลีมีแจกคูปอง ไต้หวันมีโปรโมชั่นให้เข้าพักฟรีบางเมืองที่ต้องการโปรโมท

พิพัฒน์เร่งตั้งวอร์รูมท่องเที่ยว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า กระทรวงฯได้จัดตั้งวอร์รูม “ศูนย์อำนวยการแก้ไขและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวยั่งยืน” มีภารกิจ กำกับ ติดตาม และดำเนินกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดถึงสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและองคาพยพที่เกี่ยวข้องกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่ส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ทั้งในช่วงเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ในเบื้องต้นกำหนดจัดตั้งศูนย์อำนวยการฯอยู่ที่อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและอุปกรณ์ที่สามารถสื่อสารระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ

“ในระยะแรกนี้ยอมรับว่ากระทรวงสาธารณสุขต้องเป็นหน่วยงานหลักเผชิญสถานการณ์ ส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องคอยติดตามสถานการณ์ เตรียมรับมือในส่วนที่เกี่ยวข้องลำดับถัดไป เช่น การวางแผนกำหนดมาตรการ เพื่อให้การนำเสนอข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สิ่งที่สามารถทำได้ขณะนี้คือการช่วยกันเผยแพร่ความรู้และแนวปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อรับมือสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมปลอดภัย และในฐานะมิตรประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวฯมีหน้าที่สื่อสารให้กำลังใจและช่วยเหลือตามกำลังแก่พี่น้องชาวจีนที่ประสบความเดือดร้อนด้วยหลักมนุษยธรรม