'บิ๊กแป๊ะ' ลั่นคนร้ายจี้ชิงทองลพบุรีตามจับไม่ง่าย

'บิ๊กแป๊ะ' ลั่นคนร้ายจี้ชิงทองลพบุรีตามจับไม่ง่าย

"จักรทิพย์" สั่งปรับแผนใหญ่ล่าโจรจี้ชิงทองลพบุรี ลั่นตามจับไม่ง่าย เพราะหลักฐานต้องแน่น ยันไม่กลัวกลุ่มมีอิทธิพล วอนคนใกล้ชิดให้ข้อมูล

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นใส่กระบอกเก็บเสียง กราดยิง 3 ศพ จี้ชิงทอง ภายในห้างโรบินสัน ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี เดินทางมาร่วมประชุมชุดคลี่คลายคดี ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี หลังผ่านไป 8 วัน ยังจับคนร้ายไม่ได้

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยภายหลังการชุมชุดคลี่คลายคดีนานกว่า 2 ชั่วโมง ระบุว่า ขณะนี้ยังมีความคืบหน้า มีการปรับแผนใหญ่การทำงานหลายหน่วย เพราะชุดสืบบางคนต้องรับผิดชอบ 2 หน้างานจาก 25 หน้างาน การปรับเเผนเพื่อไม่ให้ทับซ้อนกันที่วางแผนไว้ ยืนยันว่ามีเป้ากลุ่มคนร้ายตั้งแต่วันแรก แต่เวลานี้ตัดกลุ่มเป้าหมายออกไปหลายคน โดยตำรวจมีวิธีการจะเข้าสู่ตัวคนร้ายหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลไม่กลัว แต่กลัวการให้ข่าวที่อาจทำให้คนร้ายหลบหนี

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า การสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานในแต่ละส่วนต้องใช้เวลา แต่เวลานี้ได้หลักฐานแคบลงแล้ว ส่วนการออกหมายจับไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องเข้าที่ประชุมและก็ต้องเป็นที่ยุติ มิเช่นนั้นจะเป็นการออกหมายที่ไม่มีคุณภาพ การจับคนร้ายไม่ง่าย การจะจับคนใดคนหนึ่งหลักฐานต้องพร้อม คดีแบบนี้จะต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังหยอกล้อสื่อว่า จับคนร้ายจับได้แน่นอนภายใน 2 วัน คือ วันคู่และวันคี่ โดยบอกว่าเพื่อไม่ให้นักข่าวเครียด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้กลับกรุงเทพได้แล้วหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ หันกลับมาตอบว่า ก็แล้วแต่ ตกข่าวไม่รู้นะ

ด้าน พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คคลายคดี เปิดเผยว่า จากการที่นำเสนอข่าวทางทีวี สื่ออนไลน์ เชื่อว่าการที่เห็นตำหนิ รูปพรรณคนร้าย จะมีกลุ่มคนที่รู้ตัวคนร้าย ทั้งบุคคลที่สนิท หรือใกล้ชิดตัวคนร้าย แต่ยังลังเลที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจ เชื่อว่าการที่คนหล่านี้เห็นคนร้ายทางทีวี ตำรวจรอให้เข้ามาให้ข้อมูล มีเงินสินบนนำจับให้กับสายลับ หรือคนที่แจ้งนำจับมีเงินให้ 600,000 บาท โดยตำรวจจะปกปิดแหล่งข่าว จึงฝากบอกคนใกล้ชิดให้เห็นแก่สังคมหากอยากเห็นสังคมเดินหน้าไปได้ และหากใครที่ให้ที่พักพิงไม่ว่าจะคนใกล้ชิด หรือข้าราชการ ก็จะมีความผิดด้วย