เครือข่ายธนาคารต้นไม้ 24 จังหวัด หนุน 'สนธิรัตน์' ดันโรงไฟฟ้าชุมชน

เครือข่ายธนาคารต้นไม้ 24 จังหวัด หนุน 'สนธิรัตน์' ดันโรงไฟฟ้าชุมชน

กลุ่มประชาชนเครือข่ายธนาคารต้นไม้ 24 จังหวัด เข้าพบขอบคุณ "สนธิรัตน์" รมว.พลังงาน ดันโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

วันนี้ (12ธ.ค.) เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ 142 คน ครอบคุมเกษตรกรราว 24 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าพบ นายสนธิรัตน์ สนธิจริวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อสนับสนุน โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก

นายสนธิรัตน์ กล่าวให้ความมั่นใจต่อเครือข่ายฯว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ จะเดินหน้าอย่างแน่นอน และพบว่า ขณะนี้ โรงไฟฟ้าชุมชนฯ ทำให้ประชาชนในหลายภาคส่วนตื่นตัวอย่างมาก หลังการประชุมคระกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2562 ได้ประกาศหลักเกณฑ์ฯโครงการแล้ว

ซึ่งจากนี้ไป กระทรวงพลังงาน จะเดินสายลงไปพบชุนชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อชี้แจงเงื่อนไขโครงการฯให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อให้นโยบายดังกล่าวขับเคลื่อนได้จริง บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงจะส่งเสริมให้ชุมชนนำเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาผสมผสานในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ ด้วย เช่น รูปแบบโคกหนองนา ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และสร้างรายได้ให้กับชุมชนกระจายในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ

“ที่มีกระแสข่าวตอนนี้ ว่าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เอกชนจะได้ประโยชน์และประชาชนเสียประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องจริง โครงการนี้จะเน้นการสร้างประโยชน์ตอบแทนให้กับชุมชนสูงสุดเป็นที่ตั้ง และในทางกลับกันตอนนี้ เอกชน เริ่มไม่มั่นใจว่า หากชุมชนเบี้ยวโรงไฟฟ้าไม่ลงขายวัตถุดิบให้จะทำยังไง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นโจทย์ที่กระทรวงพลังงาน จะต้องรับไปพิจารณาต่อ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสมาน บัวสิงห์ ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ ยื่นหนังสือระบุถึงกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการธนาคารตันไม้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) และยกระดับเป็นวิสาหกิจชุมชนและรวมกลุ่มกันเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ เพื่อแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำ โดยใช้นโยบายนพลังงานปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นเกษตรแบบผสมผสาน

รวมทั้งได้หนังสือร้องเรียนผ่าน พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมาธิการ การพลังงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบถึงความเป็นไปได้ของโครงการนี้ แต่ยังไม่สามารถดำเนินให้เกิดเป็นนโยบายไต้เนื่อง เพราะปัจจัยหลายด้าน

157681698343 157681701095

จนมาถึงรัฐบาลปัจจุบันที่นายกรัฐมนตรีกำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) นำนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อนจนบรรลุผลเป็น "โครงการโรงไฟฟ้ชุมชนเพื่อเรษฐกิจฐานราก" โดย โครงการดังกล่าวจะทำให้เกษตรกรมีโอกาสปรับเปลี่ยนอาชีพ แก้ไขผลผลิตทางการเกษตรและทำให้ชุมชนเข้มแข็ง

ทั้งนี้ เครือข่ายวิสหกิจชุมชนธนคารต้นไม้ ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดพะเยา เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ตราด ราชบุรี เพชรบุรี ชุมพร พัทลุง สตูล และปัตตานี และตัวแทนของกลุ่มวิสาหกิจชุมขนทั่วประเทศได้มาแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ผลักดันให้เกิดโครการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก

157681708461

157681526240

นายนฤพล วันทูล ผู้จัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ ยืนยันว่า ชุนชน ไม่มีทางเบี้ยวโรงไฟฟ้า เพื่อนำวัตถุดิบทางการเกษตรไปจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายอื่น แทนการป้อนให้กับโรงไฟฟ้าแน่นอน เนื่องจากการทำโรงไฟฟ้าชุมชน มีข้อผูกพันทางสัญญาอยู่แล้ว และวัตถุดิบทางการเกษตรในพื้นที่มีปริมาณเหลือจำนวนมากขอให้เอกชนมั่นใจได้

อีกทั้งโครงการนี้ ชุมชนมั่นใจว่าจะทำให้เกิดการสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่อง และเชื่อว่าโครงการนี้ ภาครัฐจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ เพราะไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐก็ยังอยากจะสานต่อนโยบาย เนื่องจากเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระกับฐานรากอย่างแท้จริง อีกทั้ง โครงการนี้ยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าผูกพันถึง 20 ปี