เช็คให้แน่ ความต่าง 'หวัด' จากเชื้อแบคทีเรีย-ไวรัส

เช็คให้แน่ ความต่าง 'หวัด' จากเชื้อแบคทีเรีย-ไวรัส

แยกให้ชัดอาการโรคหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียกับเชื้อไวรัส รู้ไว้ก่อนจะกินยา เพราะยาปฏิชีวนะไม่ได้รักษาครอบคลุมจากทั้งสองสาเหตุ

"หวัด" โรคที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ ฤดูกาล หากร่างกายเราไม่แข็งแรง หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย บางคนคิดว่าปล่อยให้หายไปเองจนเกิดอาการเรื้อรัง ส่วนบางคนขอไปซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านกินละกัน ไม่ต้องไปหาหมอให้เสียเวลาและเปลืองเงิน ยิ่งไปกว่านั้นหากอาการโรคหวัดไม่ได้หายเร็วดังใจต้องการ บางรายอาจไปซื้อยาที่แรงกว่ากินเอง 

แต่สิ่งที่ทุกคนควรรู้ไว้ก็คือ จริงๆ แล้ว "หวัด" มีสาเหตุการเกิดโรคมาจาก 2 สาเหตุ คือ จากเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย โดยส่วนใหญ่กว่า 80% มักจะเกิดจากเชื้อไวรัสมากกว่า

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ "หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสนี้ ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะก็หายได้" ดังนั้นการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นยาต้ายแบคทีเรีย จึงไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ 

157560661247

  • ส่อง "คอ" เช็กอาการว่าเกิดจาก ไวรัส VS แบคทีเรีย

157563570022

เมื่อเริ่มเป็น "หวัด" อาการที่เกิดจาก "เชื้อไวรัส" นั้น ส่วนใหญ่มักจะมีน้ำมูก ไอ อาจมีเสียงแหบและเจ็บคอร่วมด้วย จุดสังเกตอีกอย่างจากอาการเจ็บคอ มี 2 จุดชัดๆ คือ 1.คอแดง และ 2.ทอนซิลบวมแดง ซึ่งวิธีการรักษานั้น มักจะหายได้เองจากภูมิต้านทานของร่างกาย การพักผ่อน และกลั้วคอด้วยน้ำเกลือก็จะทำให้หายเร็วขึ้นได้

มาที่สาเหตุส่วนน้อยอีก 20% "หวัด" ที่มาจากการติดเชื้อ "แบคทีเรีย" ที่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากถามถึงอาการนั้น ต้องบอกเลยว่าเหมือนอาการต่างๆ ถูกเก็บซ่อนไว้ เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก แต่ต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกรโต กดไปแล้วจะเจ็บ

หรือสังเกตได้ง่ายๆ จากอาการเจ็บคอ ดังนี้ 1.ลิ้นไก่บวมแดง 2.มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล 3.ทอนซิลบวมแดง 4.คอแดง และ 5.มีฝ้าสีเทาที่ลิ้นเป็นบริเวณกว้าง ส่วนวิธีการรักษานั้นต้องไปปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ เพื่อวินิจฉัยว่าควรจะใช้ "ยาปฏิชีวนะ" หรือไม่

อีกเรื่องที่อยากเน้นย้ำคือ อย่าซื้อยาปฏิชีวนะกินเอง หลายคนเกิดคำถามว่า ทำไมถึงซื้อปฏิชีวนะกินไม่ได้? ก็เพราะว่าถ้าใช้ไม่ถูกกับโรค ไม่ถูกวิธี สร้างเชื้อดื้อยาได้

โดยจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขรายงานไว้ในปี 2554 ว่า ในรอบ 10 ปี ไทยพบปัญหาเชื้อแบคทีเรีย 4 ชนิดที่พบบ่อยนั้น เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะสูงขึ้น บางชนิดดื้อยาสูงกว่า 30 เท่าตัว ซึ่งสาเหตุก็มาจากการใช้ไม่ถูกโรคและไม่ถูกวิธี

สุดท้ายเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด คิดเอาเองว่ายาปฏิชีวนะนั้นจะฆ่าเชื้อหวัดได้ทั้งหมด ขอย้ำว่าเมื่อใช้ยาไม่ถูก แล้วเกิดอาการดื้อยา "แบคทีเรียดื้อยาที่ทนทาน (ดื้อ) จะไม่ถูกกำจัดโดยยาปฏิชีวนะที่เคยใช้ได้ผลดีอีกต่อไป"

ที่สำคัญยังมีโอกาสแพร่พันธุ์และแพร่กระจายไปสู่คน รวมถึงสิ่งแวดล้อมได้ ทำให้ต้องใช้ยาแรงขึ้น ราคาสูง ซึ่งยาตัวใหม่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อร่างกายมากขึ้นไปอีก จนท้ายสุดหากไม่มียาใดต่านแบคทีเรียได้เลย ก็อาจเสียชีวิตได้