“อีพีจี”เมินเศรษฐกิจเสี่ยง ลุยลงทุนเพิ่มใน"อีอีซี"

“อีพีจี”เมินเศรษฐกิจเสี่ยง   ลุยลงทุนเพิ่มใน"อีอีซี"

“อีพีจี”ไม่สนเศรษฐกิจมีความเสี่ยง เดินหน้าแผนเพิ่มใน "อีอีซี" ผลิตวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร

ท่ามกลางความผันผวนของการค้าระหว่างประเทศขณะนี้ ทำให้หลายแผงานทั้งด้านการลงทุนและการค้าต้องปรับเปลี่ยนซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางการชะลอตัวแต่ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ อีพีจี ผู้ดำเนินธุรกิจแปรรูปโพลิเมอร์ และพลาสติก โดยเป็นผู้ผลิตรายสำคัญของโลกจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ มีแผนพัฒนาการลงทุนเพิ่ม

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายพัฒนาธุรกิจและการลงทุน บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ อีพีจี เปิดเผยว่า ผลจากนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจการของกลุ่ม อีพีจี ทั้งหมด โดยเฉพาะในธุรกิจของบริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของ อีพีจี เนื่องจากจะเกิดการลงทุนตั้งโรงงาน และการก่อสร้างอาคารต่างๆเพิ่มอีกมากในพื้นที่อีอีซี ทำให้สินค้าของ แอร์โรเฟลกซ์ ในกลุ่มฉนวนกันความร้อน ฉนวนป้องกันเสียง และฉนวนดูดซับเสียง มีความต้องการสูงขึ้น เพื่อใช้ในโรงงานและอาคารต่างๆ

นอกจากนี้ จากมาตรการส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง เพราะรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จะต้องใช้ชิ้นส่วนที่น้ำหนักเบา ซึ่งชิ้นส่วนพลาสติกของบริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงทำให้มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา โดยที่ผ่านมาบริษัทฯได้ผลิตชิ้นส่วนตัวถังให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของ FOMM ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายแรกของไทย ซึ่งในอนาคตจะมีค่ายรถยนต์ต่างๆเข้ามาผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัท

ในขณะที่อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ก็จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุอาหารของบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งยังได้ขยายไปสู่การผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดภายในประเทศและตลาดโลก ที่มุ่งไปสู่การรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ดังนั้น จากทิศทางการขยายตัวที่กล่าวมาขั้นต้น ทำให้ อีพีจี มีแผนขยายการลงทุนทั้งในพื้นที่ อีอีซี และต่างประเทศ โดยภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2565 เป็นจำนวนเงิน 1,150 ล้านบาท

แบ่งเป็นในปี 2563 ลงทุน 655 ล้านบาท โดย บริษัทแอร์โรเฟลกซ์ จะลงทุนพัฒนาสายการผลิตอัตโนมัติทั้งในโรงงานที่ จ. ระยอง และโรงงานที่สหรัฐ มีมูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท และในปี 2564-2565 จะลงทุนเพิ่มอีก 310 ล้านบาท รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐ และญี่ปุ่น เป็นต้น ตลอดจนการขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และตะวันออกกลาง

บริษัทแอร์โรคลาส จะลงทุนพัฒนาสายการผลิตในโรงงานที่ จ. ระยอง และเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานของออสเตรเลีย มีมูลค่าการลงทุน 235 ล้านบาท ในปี 2564-2565 จะลงทุนเพิ่มอีก 120 ล้านบาท

157486452219

จากการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศเห็นว่าการบริโภคในประเทศชะลอตัวลงโดยเฉพาะรถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าคงทน ช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย.62 ที่ผ่านมา แอร์โรคลาสได้เตรียมความพร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพเติบโตทดแทน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ในทวีปแอฟริกา ซึ่งผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลกหลายรายเข้าไปตั้งฐานการผลิตที่นั่น 

โดยแอร์โรคลาส ได้ลงทุนในกิจการร่วมค้า Aeroklas Duys (Pty) Ltd. ประเทศแอฟริกาใต้ ขณะที่ธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย TJM Products Pty.Ltd (TJM) ได้ทำตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น ในประเทศมาเลเซีย

บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จะลงทุนพัฒนาสายการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีมูลค่าการลงทุน 240 ล้านบาท และในปี 2564-2565 จะลงทุนเพิ่มอีก 65 ล้านบาท โดยจะเร่งทำการตลาดในประเทศมากขึ้นในกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่ม 

ในปีนี้จะทำการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการสินค้ามาตรฐานสูง และกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่ม รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบประเภทไบโอพลาสติกได้

เนื่องจากมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม และมีแผนลงทุนขยายไลน์การผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษเพื่อให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร และมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น กัมพูชา ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

“บริษัทฯได้ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยในโรงงงาน จ. ระยอง อีพีจี มีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงงานใหม่ของ แอร์โรเฟลกซ์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ต้นปี 2563 มีพื้นที่ใช้สอย 1.5 – 1.6 หมื่นตารางเมตร มีกำลังการผลิตเพิ่มประมาณ 6 พันตัน และในปี 2562-2563 จะลงทุนใน อีสเทิร์น โพลีแพค ขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มูลค่า 240 ล้านบาท”

ในปัจจุบัน อีพีจี มีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น แอร์โรคลาส 48% แอร์โรเฟลกซ์ 29% และอีสเทิร์น โพลีแพค 23% สำหรับแนวโน้มธุรกิจและทิศทางการเติบโตในช่วงต่อจากนี้ (ต.ค.62 - มี.ค.63) ยังคงดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ โดยคาดว่ารายได้จากขายในปี 62/63 เติบโตที่ 5% - 6% 

“ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจโลก แต่คาดว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 28% - 30% เนื่องจากยังคงได้รับผลบวกจากราคาวัตถุดิบกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับลดลง และการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น”