ช.การช่าง ดิ่ง 13% เช้านี้ ต่ำสุดรอบ 5 ปี หลังโชว์งบไตรมาส 3/62 ดิ่ง 84% เหตุงานในมือชะงัก

ช.การช่าง ดิ่ง 13% เช้านี้ ต่ำสุดรอบ 5 ปี หลังโชว์งบไตรมาส 3/62 ดิ่ง 84% เหตุงานในมือชะงัก

ช.การช่าง ดิ่ง 13.2% เช้านี้ หลังโชว์งบไตรมาส 3/62 ร่วง 84% เหตุงานในมือชะงัก ขณะที่นักวิเคราะห์ส่อหั่นประมาณการลงอีก

ราคาหุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วง 13.2% แตะจุดต่ำสุดที่ 17.70 บาท ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ด้วยปริมาณการซื้อขายถึง 41.2 ล้านหุ้น และเป็นระดับราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ไตรมาส 3/62 CK รายงานกำไรปกติ 205 ล้านบาท ลดลง 84% จากปีก่อน และลดลง 78.6% จากไตรมาสก่อน น้อยกว่าที่เราคาด 22% ผลกระทบจากรายได้ที่ปรับลดเป็น 4.8 พันล้านบาท ลดลง 33.2% จากปีก่อน เนื่องจากงานในมือที่น้อยลง โดยงานหลักยังคงมาจาก รถไฟฟ้าสายสีส้ม สีน้ำเงิน และเขื่อนไซยะบุรี

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเป็น 8.9% เพิ่มขึ้นทั้งรายไตรมาสและรายปีที่ 8.1% และ 8.2% ตามลำดับ และมีกำไรจากเงินลงทุน 284 ล้านบาท ลดลง 72.8% จากปีก่อน กระทบจากผลประกอบการที่ลดลงของ BEM และ CKP รวมทั้งไม่มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน

สำหรับ 9 เดือน ที่ผ่านมา มีกำไรปกติ 1,474 ล้านบาท ลดลง 31% จากปีก่อน รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงเป็นหลักอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 20% จากปีก่อน อัตรากำไรทำได้ดีขึ้นเป็น 8.5% จากปีก่อนที่ 8% ขณะเดียวกันมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ปรับเพิ่ม 38% อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยมีกำไรจากเงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท

เราอยู่ระหว่างปรับประมาณการและทบทวนคำแนะนำ จากการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มผลประกอบการที่เกิดจากความล่าช้าของการประมูลงานใหม่ ส่งผลต่อการคาดหมายรายได้และมาร์จิ้นที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนหลังประชุมนักวิเคราะห์ ในวันที่ 20 พ.ย.นี้

ภาพรวมปีหน้า งานในมือจากรถไฟ 3 สนามบินเป็นความหวัง CK มีงานในมือปัจจุบันที่ไม่มากนักราว 3.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่งานที่กลุ่ม CPH ได้ทำสัญญาไป จะเป็นโอกาสต่องานใหม่ที่เพิ่มขึ้นขอ CK คาดมีโอกาสรับงานก่อสร้างราว 3-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นการรับรู้รายได้ในช่วงท้ายของปี 2563 โดยจะมีงานในมือรองรับรายได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท

ส่วนงานประมูลอื่นๆ รอความชัดเจน เรามองว่า CK ยังมีโอกาสรับงานอื่นเพิ่มจากภาครัฐเช่นงานสนามบินอู่ตะเภา ที่อยู่ระหว่างรอการเปิดซองราคา รวมถึงงานอื่นที่คาดว่าจะเห็นกรอบเวลาประมูลเพิ่ม ทั้งจากรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีแดงต่อขยาย รวมถึงงานรถไฟทางคู่ และงานทางด่วน Yangon Elevated ในประเทศพม่า รวมถึงงานสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีมูลค่าโครงการโดยรวมไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท ช่วยหนุนรายได้ในระยะยาว