ทุนนอกจ่อเข้าหุ้น ‘แสนล้าน’ ‘ไพบูลย์’ ชี้อานิสงส์ ดอกเบี้ยต่ำ-สภาพคล่องล้น

ทุนนอกจ่อเข้าหุ้น ‘แสนล้าน’ ‘ไพบูลย์’ ชี้อานิสงส์ ดอกเบี้ยต่ำ-สภาพคล่องล้น

“ไพบูลย์” ฟันธงหุ้นไทยปี 63 ยังเป็น “ขาขึ้น” รับอานิสงส์ภาวะดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องโลกล้น หนุนเงินทุนโยกจากตลาดบอนด์เข้าหุ้น พร้อมประเมินฟันด์โฟลว์ต่างชาติส่อไหลเข้ากว่าแสนล้านบาท

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินว่าแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 2563 มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะได้แรงหนุนกระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่คาดว่าจะไหลออกจากตลาดหุ้นอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วในปีนี้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังจากที่ปีนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพียง 3% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 20% โดยคาดว่าปีหน้ามีโอกาสฟันด์โฟลว์ต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยถึงระดับแสนล้านบาท

ทั้งนี้ในส่วนของปัจจัยบวกที่หนุนตลาดหุ้นไทยปีหน้านั้น นอกเหนือจากเม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกแล้ว คาดว่าจะมีเม็ดเงินที่โยกออกจากตลาดตราสารหนี้เพิ่มเติมด้วย หลังทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวลดลงและบางประเทศมีการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งส่งผลให้เข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและกดดันให้สภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้น

ขณะที่คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่นิ่งขึ้น โดยมองว่าในปี 2563 จะเห็นความชัดเจนเกี่ยวการเจรจาการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2563 ขณะที่การ Brexit ของประเทศอังกฤษจะมีการทำข้อตกลงเกิดขึ้น รวมถึงจะเห็นผลกระทบจากดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำด้วย ซึ่งจะช่วยหนุนการส่งออกไทยให้ไม่ติดลบและยังมีนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมไปถึงงบประมาณของภาครัฐที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) มีผลประกอบการที่เติบโตขึ้น

"มองว่าปีนี้ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับตลาดหุ้นไทย แต่เป็นปีทองของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 20% ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะนักลงทุนของไทยสัดส่วนกว่า 80% ที่โฟกัสแค่ระยะสั้น หรือกลัวปัญหาเทรดวอร์เกินเหตุ แต่ต่างกับนักลงทุนต่างชาติที่รู้ว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายเลยสะท้อนในตลาดหุ้นทั่วโลก"

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้น่าจะยังคงไร้ทิศทาง โดยอาจไม่ซื้อหรือขายออกมาชัดเจนนัก ซึ่งทำให้ฟันธงได้ยากว่ายอดสุทธิต่างชาติปีนี้จะเป็นบวกหรือลบ 

ขณะที่ทิศทางฟันด์โฟลว์ปีหน้าเชื่อว่าจะทรงตัวแบบปีนี้ เนื่องจากแวลูหรือ EPS ของตลาดหุ้นไทยที่ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติมองตลาดหุ้นไทยดูแพง รวมถึงช่องว่างของการใช้นโยบายการเงินของทั่วโลกที่แคบลง ซึ่งจะส่งผลให้การหวังว่าสภาพคล่องจะไหลออกมาเพิ่มขึ้นคงเป็นไปได้ยาก

นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติคาดว่านับจากนี้จะไหลกลับเข้ามา เนื่องจากดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในช่วงขาลง จึงทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยถือมีจุดแข็งในด้านหุ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (WELL-BEING) ที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก