ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้แลกเปลี่ยนมุมมองในสามประเด็นที่อาเซียนควรร่วมกันผลักดัน
1.การส่งเสริมความมั่นคงที่ยังยืน เพื่อรักษาและเพิ่มพูนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค อาเซียนควรเน้นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับยุทธศาสตร์ ควรขยายผลจากสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ให้แพร่หลายออกไปในวงกว้าง
2. การเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ความตกลง RCEP คือหัวใจสำคัญจะช่วยรองรับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน เพิ่มประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนของอาเซียนและภูมิภาค
3. การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นประเด็นสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอาเซียนและเป็นพื้นฐานสำคัญของการเติบโตในอนาคต อาเซียนมีผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาการประมง IUU การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ครอบคลุมทุกช่วงวัย
ทั้งนี้ ประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอาเซียนต้องกระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาคอย่างมียุทธศาสตร์เพื่อให้ความร่วมมือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และสมดุลเพื่อประโยชน์สูงสุด อาเซียนจึงควรเตรียมความพร้อมให้ดีสำหรับการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้องที่กำลังจะเกิดขึ้น และการประชุมสุดยอดอาเซียนสาธารณรัฐเกาหลีสมัยพิเศษครั้งที่สามในปลายเดือนนี้
เปิดโผ 'ทุนยักษ์' จ้องฮุบ 'เทสโก้'
เงินบาทจะคืนร่างสู่ สกุลเงินธรรมดาในปี 2020?
โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนนาม หน่วยทหารรักษาพระองค์
'ลิเวอร์พูล' จ่อคว้าตัว 'มินามิโนะ' เดือนหน้า
'เปรมชัย-พวก' ประกันตัวไม่ทันตามขั้นตอน นอนคุก 1 คืน
'เอสแอนด์พี' ปรับมุมมองศก.ไทย สู่เชิงบวกครั้งแรกรอบ 9 ปี