ไทยและบาห์เรนพร้อมกระชับความร่วมมือทั้งทวิภาคี และพหุภาคี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ไทยและบาห์เรนพร้อมกระชับความร่วมมือทั้งทวิภาคี และพหุภาคี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ไทยและบาห์เรนพร้อมกระชับความร่วมมือทั้งทวิภาคี และพหุภาคี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

วานนี้ (วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562) เวลา 16.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เชค คาหลิด บิน อาเหม็ด บิน โมฮัมเหม็ด อัล คอลิฟะห์ (H.E. Shaikh Khalid bin Ahmed bin Mohamed Al Khalifa) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรบาห์เรน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อลงนามในภาคยานุวัติสารสำหรับการเข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้


นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบาห์เรนที่มีความใกล้ชิดและครอบคลุมในทุกระดับ ทั้งระดับรัฐบาล ภาคเอกชน หรือประชาชน และขอฝากความระลึกถึง ถวายสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อบาห์เรนในฐานะมิตรประเทศที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกมุสลิม พร้อมมุ่งมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันให้ครอบคลุมและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตลอดจน ยินดีที่บาห์เรนได้เข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์ระหว่างบาห์เรนกับอาเซียนในมิติต่างๆ ให้มีพัฒนาการมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณบาห์เรนที่สนับสนุนไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอดในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในกรอบ OIC 



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ได้ฝากความปรารถนาดีมายังนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ขอบคุณที่ไทยเชิญให้บาห์เรนเข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยืนยันบาห์เรนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับไทยในทุกระดับ ประสงค์ให้ไทยเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งทางด้านการค้าและการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยในด้านการค้าและการลงทุน 

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเชื่อว่ายังมีโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างกันอีกมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนในบาห์เรนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความมั่นคงทางอาหารซึ่งเป็นประเด็นที่บาห์เรนให้ความสำคัญ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้ภาคเอกชนบาห์เรนพิจารณาเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทยมากขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยพร้อมและยินดีให้ความสนับสนุน 



นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่ชาวบาห์เรนชื่นชอบการเดินทางมาไทย และส่วนหนึ่งมาเพื่อการรักษาพยาบาล ฝ่ายไทยพร้อมจะดูแลนักท่องเที่ยว และผู้ป่วยชาวบาห์เรนอย่างดี อย่างไรก็ดี ไทยและบาห์เรน ยินดีที่ความร่วมมือด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาลมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการ Visiting Doctor Programme ที่นายกรัฐมนตรีบาห์เรนทรงริเริ่ม