'จุรินทร์' ชี้ตัด 'จีเอสพี' ไม่กระทบเปิดตลาดส่งออกสหรัฐฯ

'จุรินทร์' ชี้ตัด 'จีเอสพี' ไม่กระทบเปิดตลาดส่งออกสหรัฐฯ

นายกฯ เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดพิเศษ รับมือสหรัฐฯ ตัดจีเอสพี “จุรินทร์” ชี้ไม่กระทบการเปิดตลาดส่งออกไทยในสหรัฐฯ พร้อมหารืออุปสรรครถไฟไทย-จีน เตรียมเสนอนายกฯจีนช่วยปลดล็อกอุปสรรคหลังโครงการล่าช้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.) เศรษฐกิจที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน วันนี้ (29 ต.ค.) ว่าที่ประชุมฯได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่ประเทศไทยถูกสหรัฐฯประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) โดยคณะทำงานประกอบไปด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน โดยให้เร่งทำงานในการชี้แจงข้อมูลด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาแรงงานของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาให้ทางการสหรัฐฯรับทราบก่อนที่จะถึงเส้นตายการตัดจีเอสพีในเดือน เม.ย.ปี 2563

นอกจากนี้ที่ประชุมฯได้รับทราบผลกระทบจากการที่สหรัฐฯตัดจีเอสพีไทยร่วมกันว่าหากไม่สามารถขอให้สหรัฐฯคงสิทธิจีเอสพีที่ให้กับประเทศไทยจะทำให้สินค้าบางรายการที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯถูกเก็บภาษีนำเข้า 4 -5% คิดเป็นมูลค่าผลกระทบต่อการส่งออกประมาณ 1,500 – 1,800 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามจะไม่กระทบต่อแผนการขยายตลาดส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการเจาะตลาดสหรัฐฯเพิ่มเติมเป็นรายมลรัฐเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯในอนาคต


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองในฐานะเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้มีการหารือเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ที่เริ่มมีการก่อสร้างแล้วแต่ยังมีความล่าช้าของการดำเนินการโดยที่ประชุมฯได้สรุปปัญหาอุปสรรคต่างๆเพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำไปหารือกับนายหลี่ เค่อเฉียง (H.E. Mr. Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีของสาธารณะรัฐประชาชนจีนที่มีกำหนดเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 2 – 5 พ.ย.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีจีนมีกำหนดการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 5 พ.ย.นี้
“โครงการรถไฟไทย-จีนได้เดินหน้าก่อสร้างไปแล้วแต่พบว่ายังมีความล่าช้า ในเรื่องการดำเนินการเนื่องจากเป็นโครงการจีทูจีที่ทั้งสองรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันดังนั้นในการเดินทางมาเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีของจีนจะได้มีการหารือเรื่องนี้ร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม” นายกอบศักดิ์ กล่าว