ภาพรวมไม่ต่างจากที่เราคาด ขณะช่วงสั้นจิตวิทยาอาจกระทบจากการปรับลด GDP

โดยทางสหรัฐฯ มองบรรลุข้อตกลงในขั้นแรก (Phase I) ขณะที่มีรายงานว่าทางจีนยังต้องการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อสรุปรายละเอียดข้อตกลงก่อนการลงนาม ซึ่งเราเชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงในขอบเขตที่จำกัด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และจะเป็นปัจจัยบวกกับจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงจากแรงทำกำไรระยะสั้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง อาจเป็นปัจจัยกระทบระยะสั้นต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามเรามองกลุ่มโรงกลั่นยังคงน่าสนใจและคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มที่เกี่ยวกับปิโตรเลียม

แต่ตลาดอาจกังวลการปรับ GDP โดยธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดเป้าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยปีนี้ลงเหลือแค่ 2.7% จากเดิม 3.5% หลังจาก GDP ของไทยในไตรมาส 2 ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ขณะที่การส่งออกประสบปัญหาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และผลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีกำหนดการเผยแพร่รายงาน World Economic Outlook ฉบับใหม่

สภาฯ พิจารณางบปี 2563 วันที่ 17-18 ต.ค. ภายหลังครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 เมื่อ 7 ต.ค. ทั้งนี้ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องจนถึงเบิกจ่ายงบใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ทำให้กว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ มี.ค.-เม.ย.63 ซึ่งอาจทำให้การใช้จ่ายภาครัฐในช่วงไตรมาส 4/62-1/63 อ่อนกว่าปกติ มีโอกาสเป็นลบต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งในกลุ่มนี้เราชอบเพียง STEC

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy หุ้นกลุ่มโรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO จากโมเมนตัมกำไรที่เป็นบวกตามค่าการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลัง // กลุ่มโรงแรม MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, BJC, STEC, VRANDA*, TEAMG

ภาพรวมกลยุทธ์ การผ่าน 1622 จุด ทำให้ภาพรวมเป็นบวก และม๊โอกาสเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1635-1650 จุด เน้นหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพง และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก // หุ้นแนะนำวันนี้ MTC, WHA* / TEAMG* (เป้า 2.50, ตัดขาดทุน 2.06), VNT (เป้า 26.50, ตัดขาดทุน 24.75)

แนวรับ 1617 จุด / แนวต้าน : 1635-1650 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

Brexit – นักลงทุนจับตาการเจรจาจ้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป 17 ต.ค.นี้ ซึ่งตลาดประเมินเป็นโอกาสสุดท้ายในการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง (no deal)

เลื่อนใช้ราคาประเมินใหม่ – เป็นปี 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การประเมินราคาทรัพย์สินที่จะประกาศใช้ช่วงสิ้นปี 2563

รับฟังความเห็นช่องทางให้บริการธนาคาร – ถึง 21 ต.ค.เพื่อผ่อนปรนเกณฑ์ให้ยืดหยุ่น รวมถึงการขยายขอบเขตให้ธนาคารพาณิชย์แต่งตั้งบุคคลธรรมดาเป็นตัวแทน (Banking agent) สามารถให้บริการที่มีความเสี่ยงต่ำ

ปรับ SET50/SET100 – ตลท.นำ AWC เข้าคำนวณใน SET50 แทน KKP ซึ่งถูกนำไปคำนวณใน SET100 แทน ส่งผลให้ BEAUTY หลุดจาก SET100

 

ประเด็นติดตาม: 17-18 ต.ค. – สภาฯพิจารณางบปี 2563 / 25 ต.ค. – กลุ่ม CP นัดเซ็นสัญญา High-speed Train

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)