คนไทยครึ่งปท.เล่นพนัน ห่วงสูงวัยหน้าใหม่พุ่ง42%

คนไทยครึ่งปท.เล่นพนัน   ห่วงสูงวัยหน้าใหม่พุ่ง42%

ศูนย์ศึกษาปัญหาพนันพบปี 62 คนไทยเล่นพนัน 30.42 ล้านคน เพิ่มจากปี 60 ราว 1.49 ล้านคน อีสานมากสุดกว่า 10 ล้านคน นักพนันหน้าใหม่ 7 แสน ห่วงกลุ่มผู้สูงวัยเล่นพนันครั้งแรกเพิ่ม คิดเป็น 42.2% พบ “สลากกินแบ่งฯ”กระตุ้นการพนันมากขึ้น ร้องรัฐลดปริมาณ

ในการประชุมวิชาการของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันปี 2562 หัวข้อ “สังคมเท่าทัน การพนันไม่ล้ำเส้นเสี่ยง” ซึ่งร่วมจัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (CGS) มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมทั้งภาคีเครือข่าย วานนี้ (7 ต.ค.) นางนวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เปิดเผยว่า ได้ดำเนินโครงการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2562 โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วไป 77 จังหวัด อายุ 15 ปีขึ้นไป รวม 44,050 ตัวอย่าง ระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค.2562 

พบว่าปี 2562 คนไทยเล่นการพนันประมาณ 30.42 ล้านคน หรือ 57% เทียบกับปี 2560 เพิ่มขึ้นประมาณ 1.49 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่ 7 แสนกว่าคน โดยนักพนันส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัยทำงาน แต่น่ากังวลใจที่เด็กอายุ 15-18 ปี เล่นการพนันประมาณ 7.33 แสนคน หรือคิดเป็น 20.9% ของกลุ่มเด็ก ขณะที่เยาวชนอายุ 19-25 ปี เล่นการพนันประมาณ 3.05 ล้านคน หรือคิดเป็น 46.3% ของกลุ่มเยาวชน 

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าห่วงใย คือกลุ่มผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นพนันประมาณ 3.35 ล้านคน หรือคิดเป็น 42.2% ของกลุ่มผู้สูงวัย สำหรับอายุเริ่มเล่นพนันครั้งแรก ต่ำสุดอยู่ที่ 7 ขวบ 

เมื่อจำแนกตามภูมิภาค ดังนี้ ภาคอีสาน มีคนเล่นพนักมากสุด 10.91 ล้านคน 58.9% กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 4.62 ล้านคน 58.3% ภาคใต้ 4.09 ล้านคน 54.4% ภาคเหนือ 5.20 ล้านคน 52.0% และภาคกลาง 5.58 ล้านคน 50.6%

พนันฟุตบอลวงเงินพุ่ง 1.6 แสนล.

นางนวลน้อย กล่าวอีกว่า การพนันยอดนิยม 5 อันดับแรก ยังคงเหมือนกับผลสำรวจปีที่ผ่านๆ มา ได้แก่ 1.สลากกินแบ่งรัฐบาล มีคนไทยเล่น 22.74 ล้านคน หรือ 42.7% มีวงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนัน 150,486 ล้านบาท โดยเป็นเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 4.72 แสนคน 2.หวยใต้ดิน คนไทยเล่นการพนันหวยใต้ดิน 17.73 ล้านคน หรือ 33.3% วงเงินหมุนเวียนในตลาด 153,158 ล้านบาทโดย 73.6% ของคนที่เล่นหวยใต้ดิน หรือประมาณ 13.05 ล้านคน เล่นพนัน สลากกินแบ่งฯ ควบคู่ไปด้วย 

3.พนันทายผลฟุตบอล คนไทยเล่นพนันทายผลฟุตบอล 3.64 ล้านคน คิดเป็น 6.49% วงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนัน 160,542 ล้านบาท เป็นเยาวชน 18-25 ปี จำนวน 0.89 ล้านคน นักพนันทายผลฟุตบอล หน้าใหม่ 2.11 ล้านคน จำนวนเงินและความถี่ พบว่าเงินที่ใช้เล่นเฉลี่ยต่อสัปดาห์ 558 บาท 752 บาท 584 บาท เฉลี่ยสูงสุดต่อสัปดาห์ 20,000 บาท 30,000 บาท 3,000 บาท ความถี่ที่เล่นเฉลี่ยต่อเดือน 4 ครั้ง 5 ครั้ง 4 ครั้ง เฉลี่ยสูดสุดต่อเดือน 30 ครั้ง 30 ครั้ง 10 ครั้ง

ทั้งนี้ 4.พนันในบ่อน คนไทยเล่นพนันในบ่อน 4.98 ล้านคน หรือ 9.35% วงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนัน 122,566 ล้านบาท ลักษณะบ่อนที่เล่น บ่อนตามบ้าน บ่อนวิ่ง บ่อนงานศพ 97.2% บ่อนถาวรในประเทศ 1.2% โดยประเภทของการพนันที่เล่นในบ่อน ได้แก่ เกมไพ่ อื่น ๆ เช่น ผสมสิบ เสือมังกร 51.4% ไฮโล โปปั่น น้ำเต้าปูปลา 43.5% บาคาร่า ป๊อกเด้ง 40.3% 

5.พนันออนไลน์ คนไทยเล่นพนันออนไลน์ 826,925 คน คิดเป็น 1.55% มีนักพนันออนไลน์ หน้าใหม่ 91,979 คน โดยช่องทางที่ใช้เล่นพนันออนไลน์โทรศัพท์มือถือ 97.1% คอมพิวเตอร์ PC โน๊ตบุ๊ค แล็ปท็อป 6.3% แท็บเล็ต 4.2% วงเงินหมุนเวียนของพนันออนไลน์ 20,152 ล้านบาท และเหตุผลที่เล่นพนันออนไลน์ สะดวก ง่าย เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา 93.7% ฝาก-ถอนเงินจากระบบได้อย่างรวดเร็ว39.3% เพื่อนชวน 33.7%

 

ปัญหาหนี้สินกว่าหมื่นล้านบาท

นางนวลน้อย กล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากการเล่นการพนัน ส่งผลทั้งปัญหาหนี้สินและอื่นๆ โดยมีผู้เล่นพนันในปี 2562 ระบุว่า 2.98 ล้านคน หรือ 9.8% ได้รับผลกระทบจากการเล่นพนัน ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 60.1%  มีปัญหาความเครียด 34.7% เป็นหนี้ 31.3% มีปากเสียงทะเลาะกับคนในครอบครัว 22.2% เสียเวลาทางาน/การเรียน 15.1 % 

คนไทยที่เล่นพนันในปี 2562 จำนวน 1.068 ล้านคน มีหนี้สินที่เกิดจากการพนัน และประมาณการหนี้สินจากการพนัน 11,468 ล้านบาท เฉลี่ยคนละ 10,738 บาท สูงสุด 2 แสนบาท

“สลากกินแบ่งฯ” กระตุ้นพนันเพิ่ม

"สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการพนันที่กระตุ้นให้คนเล่นการพนันมากขึ้น ดังนั้น อยากให้ภาครัฐ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลลดปริมาณสลากกินแบ่งรัฐบาลลงบ้าง เพราะตอนนี้มีสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาประมาณ 100 ล้านใบ ทั้งที่สำคัญไม่ได้เป็นการลดหวยใต้ดิน แต่กลับยิ่งส่งเสริมให้มีการซื้อ การขายมากขึ้น หากรัฐบาลคิดจะทำพนันให้ถูกกฎหมายคงต้องทำงานหนัก และควรจะพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน 

ส่วนการเก็บภาษีพนันเพื่อแก้ปัญหาพนัน ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นต้องเก็บภาษีเพิ่ม เพราะขณะนี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็นำเงินจากการขายสลากให้แก่ภาครัฐในสัดส่วน 23% ซึ่งในเชิงเศรษฐศาสตร์ถือเป็นการดึงเงินกลับไปที่รัฐบาลอยู่แล้ว” นางนวลน้อย กล่าว

ดันตั้งคกก.ป้องกันฯพนัน

นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ขณะนี้หลายประเทศได้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและลดปัญหาจากการพนัน ทำหน้าที่สร้างความสมดุลในสังคม ป้องกันไม่ให้คนเล่นการพนันก้าวล้ำเส้นเสี่ยงไปสู่ภาวะติดการพนัน และจัดให้มีบริการสำหรับผู้มีปัญหาติดการพนัน ทั้งตัวคนเล่นและคนใกล้ชิด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมเวทีดังกล่าว ระบุว่า หากดูจากผลสำรวจ แนวโน้มของเยาวชน นักพนันหน้าใหม่และการเติบโตของเทคโนโลยี คนที่เล่นการพนันมีมากขึ้น รัฐจึงควรมีนโยบายที่ต้องเจาะไปยังกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมถึงต้องแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน 

ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการพนันถูกกฎหมาย เพราะไม่เชื่อว่าจะมีประโยชน์ที่แท้จริง อีกทั้งตัวเลขสำรวจทัศนคติของประชาชน ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย และมีแนวโน้มจะเพิ่มคนเล่นมากขึ้น ดังนั้น การเพิ่มการพนันที่ถูกฎหมาย ไม่ได้ทดแทนและทำให้การพนันผิดกฎหมายน้อยลง