แพทย์ชะลอวัย เตือนคนไทย อย่ากลัวสารพิษจากยาฆ่าแมลง จนเลิกกินผักผลไม้

แพทย์ชะลอวัย เตือนคนไทย อย่ากลัวสารพิษจากยาฆ่าแมลง จนเลิกกินผักผลไม้

แพทย์ชะลอวัย เตือนคนไทย อย่ากลัวสารพิษจากยาฆ่าแมลง จนเลิกกินผักผลไม้ แต่หันไปหาฟาสต์ฟู้ดแทน เสี่ยงเกิดโรคตามตะวันตก แนะ จัดอาหารสมุนไพรตีคู่ เช่น รางจืด พืชอินทรีย์ ช่วยได้

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ในฐานะแพทย์ชะลอวัย ออกมาเตือนคนไทยเนื่องจากคนจำนวนมากห่วงเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจากสารพิษในผักผลไม้ต่างๆ อย่างที่เป็นข่าว ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะเราเท่านั้น แต่ประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆ ก็เช่นกัน แต่มีสิ่งสำคัญที่มักไม่ค่อยถูกพูดถึงนั่นคือเรื่องของการ “กลัวจนเกินเหตุ” จนทำให้เสียประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ “สารพิษจากยาฆ่าแมลง” ที่คนผวาจนเลิกกินผลไม้ ทำให้ปริมาณการบริโภคพืชผักต่อคนที่น้อยอยู่แล้วยิ่งน่าห่วง

ทั้งนี้ นอกจากจะเลิกกินผลไม้แล้ว ยังหันไปกินอาหารแบบตะวันตกอยู่มาก เน้นอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งมีเส้นใยไฟเบอร์น้อย เมื่อไม่ค่อยมีเยื่อใยให้กันมันก็ทำให้เสี่ยงโรคตามแบบตะวันตกได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, อัมพฤกษ์-อัมพาต, เบาหวาน, ไขข้อ อันมีที่มาจากโรคอ้วนตามมา 

นพ.กฤษดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความห่วงใยในเรื่องการกลัวเกินเหตุจนกินผักผลไม้น้อยลงมีทั่วโลก เคยมีหน่วยงานไม่แสวงหากำไรEWG(Environmental working group)ออกมาชูป้ายนำเสนอว่าปี2019นี้ มีผักผลไม้ที่เสี่ยงปนเปื้อนสารพิษอยู่12ชนิด อาทิ สตรอเบอรี่, ปวยเล้ง, มันฝรั่ง, เชอรี่ฯลฯ ยิ่งทำให้คนกลัว

“จริงอยู่ที่สารพิษในผักผลไม้อาจทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท อาจเสี่ยงมะเร็งหรือรายงานจากการศึกษาในปี 2018โดยมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดT.H.Chan School of Public Health Environment and Reproductive Health(EARTH study)พบว่ามีความสัมพันธ์ของการเกิดปัญหามีบุตรกับการบริโภคอาหารที่มีสารปราบศัตรูพืชสูง แต่หากขาดพืชผักไปจากการบริโภคหลักเลยจะส่งผลเสียมากกว่าดี”

ดังนั้น เราจึงควรพบกันครึ่งทางอย่างเหมาะสม ด้วยการแก้ที่การกินให้เสี่ยงน้อยลง เป็นต้นว่าอย่ากินแต่พืชผักซ้ำเดิม ให้เปลี่ยนไปกินให้หลากหลาย บางอย่างปลูกได้ง่ายๆ อย่างต้นหอม, ผักชี, พริก, กะเพราะ ก็ปลูกใส่กระถาง ไว้หักสดๆ มาปรุงอาหารได้ และเพื่อไม่ให้ขาดแคลนวิตามินจนเสี่ยงภัย ศาสตร์ชะลอวัยอายุรวัฒน์จึงขอแนะให้จัดการกินแบบให้ครบ5ส่วนคือพืชผักราว4-500กรัมต่อวันดังมีตัวอย่างการรับประทานผัก-ผลไม้ที่แนะนำดังต่อไปนี้ 

1.หนึ่งจานหารครึ่งให้พืชผัก ฝากวิธีจัดอาหารง่ายๆในแต่ละมื้อไว้คือให้ใน1จานที่รับประทานต่อมื้อ แบ่งโควต้าไว้ให้ผักผลไม้สักครึ่งจานแล้วท่านจะได้รับปริมาณ5ส่วน พอเพียงแล้วก็ไม่ต้องกลัวยาฆ่าแมลงจนเกินไป ดังที่นักพิษวิทยา คาร์ล วินเทอร์ แห่งยูซีเดวิสได้กล่าวไว้ว่าผู้บริโภคยังคงควรบริโภคผัก, ผลไม้และธัญพืชและไม่ควรกลัวระดับของยาฆ่าแมลงที่อยู่ในระดับต่ำจนเกินไป ซึ่งเรื่องนี้ผมขอแนะวิธีพบกันครึ่งทางง่าย ๆ คือเรายังคงควรกินผักผลไม้ต่อแต่ขอให้เลือกชนิดที่ติดโผยาฆ่าแมลงน้อยๆ ไว้ด้วย

2.กินผลิตผลเกษตร อินทรีย์หรือออแกนิกส์บ้าง ดังมีรายงานการศึกษาของฝรั่งเศสที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชื่อดังอย่างJAMA Internal Medicineว่ามีการสำรวจคนจำนวน69,000ราย พบว่า ผู้ที่กินผลิตภัณฑ์ปลอดสารหรือเกษตรอินทรีย์บ่อยจะพบเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่กินถึง25%ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องฟังอย่างตั้งใจเพราะไม่ใช่ว่าผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์ทุกสิ่งจะเหมือนกันเสมอไป

3.กินวิตามินบี จำเป็นต่อระบบประสาท ด้วยสารพิษหลายกลุ่มมีเป้าหมายอยู่ที่ระบบประสาท เช่นออแกโนฟอสเฟตส์และคาร์บาเมตมีผลที่จุดเชื่อมต่อระหว่างประสาท ซึ่งวิตามินบีหลายชนิดทำงานร่วมกับสารสื่อประสาท นอกจากนั้นยังมีรายงานจากJohn Hopkins Bloomberg School of Public Healthว่าวิตามินบีในระดับที่เพียงพอในร่างกายช่วยปกป้องสตรีตั้งครรภ์ได้แม้จะมีระดับสารกำจัดศัตรูพืชสูงก็ตาม 

4.ต้องมีรางจืด เป็นสมุนไพรไทย มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่ต้านพิษของสารกำจัดศัตรูพืชอย่างยาฆ่าหญ้าได้ ผ่านทางไปเบรกกลไกยับยั้งเอนไซม์acetyl cholinesteraseทำให้มีอะเซทิลโคลีนคั่งอยู่ตามจุดประสาทจนเกิดอาการเป็นพิษต่างๆ อีกทั้งยังต้านพิษพาราควอตผ่านกระบวนการlipid peroxidationด้วย

5.ต้านอนุมูลอิสระด้วยเคอร์ซิทิน สารชื่อแปลกนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีในพืชผักหลายชนิดอาทิ หัวหอม,องุ่นแดง,แอปเปิล,บร็อคโคลี,พริกหวาน,ชาเขียว,ชาดำ,กาแฟ,ไวน์แดง,น้ำเบอรี่ ที่ให้ลองหาชนิดที่เป็นเกษตรอินทรีย์ดู โดยเคอร์ซิทินเป็นสารกลุ่มฟลาโวโนล ที่มีการศึกษาในปี2016ลงวารสารHuman&Experimental Toxicilogyรายงานว่าสารเคอร์ซิทินนี้มีฤทธิ์ปกป้องต้านทานพิษร้ายจากสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม “ออแกโนฟอสเฟตส์” ซึ่งมีกลไกช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ, ปกป้องดีเอ็นเอจากการถูกทำลายและถนอมรักษาตับกับไตไว้