'อนุทิน' จี้ถกเอกสารแนบสัญญาไฮสปีด 'ซีพี' ให้จบ

'อนุทิน' จี้ถกเอกสารแนบสัญญาไฮสปีด 'ซีพี' ให้จบ

“อนุทิน” สั่งเจรจาเอกสารแนบท้ายสัญญาไฮสปีด "ซีพี" ให้จบลงนาม 15 ต.ค.ให้ได้ ยืนยันไม่เจรจา “บีเอสอาร์” ไม่ประมูลใหม่ เปิดทาง ร.ฟ.ท.ยอมถอยค่าจ่ายย้ายสาธารณูปโภค 200 ล้านบาท เอง ชงความคืบหน้าให้นายกฯ 30 ก.ย.นี้

คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ได้เริ่มเจรจาเอกสารสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุนกับ กิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่มซีพี) และกำหนดให้เจรจาสิ้นสุดการเจรจาในวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่กลุ่มซีพีส่งหนังสือลงวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้มีการเจรจาต่อ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มาหารือและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการคัดเลือกฯ เจรจากับกลุ่มซีพี โดยประเด็นที่เจรจาจาไม่จบให้ยึดเอกสารคัดเลือกเอกชน หรือ Request for Proposal (RFP) เพื่อลงนามสัญญาให้ได้วันที่ 15 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ การเจรจาเอกสารแนบท้ายสัญญาคืบหน้ามาก เช่น การรื้อถอนเสาโฮปเวลล์ที่ระบุในอาร์เอฟพีและผู้ชนะประมูลต้องยอมรับ ส่วนค่าย้ายสาธารณูปโภค 200 ล้านบาท ได้บอก ร.ฟ.ท.ยอมประเด็นนี้ดีกว่าเจรจาแล้วไม่จบ และไปเจรจากับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ที่เสนอราคาสูงกว่า 5 หมื่นล้านบาท

“ผมไม่เอาผู้ประมูลแพ้เพราะเงินลงทุนจะเพิ่มและไม่เปิดประมูลใหม่ เพราะไม่มีทางได้ราคาตามที่ผู้ชนะรายแรกเสนอมา หากประมูลใหม่ราคาอาจเพิ่ม 1.8 แสนล้านเลยก็ได้ เพราะข้อสอบรั่วแล้ว”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังเจรจากับกลุ่มซีพี โดยมีประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันจึงเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ นำ RFP มาทำตารางเทียบว่าใครรับผิดชอบอะไรให้ชัดเจนและเสนอนายอนุทินวันนี้ (26 ก.ย.)

 “ผมไม่ได้ตั้งข้อสังเกตอะไรเพียงแต่ไม่ให้การเจรจาขัด RFP ซึ่งบางส่วนยังติดขัดเพราะเอกชนไม่เห็นข้อมูลที่กำหนดใน RFP เช่น การรื้อถอนสาธารณูปโภค แต่จะให้เหตุผลนี้ไม่ได้เพราะมีเอกสารที่ต้องศึกษาก่อนยื่นข้อเสนอ”

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การลงนามต้องมีในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ดังนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต้องเร่งสรุปและหารือในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ก่อนจะรายงาน กพอ.วันที่ 30 ก.ย.นี้ ส่วนกรณีไม่ตัดเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ขัด RFP ออก ส่วนตัวไม่อยากให้มีคำว่าถ้าเพราะถ้าเป็นแบบนั้นใครเขียนเงื่อนไขนอก RFP ก็ต้องรับผิดชอบเอง เพราะไม่ต้องการให้เกิดค่าโง่อีก

ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังมีเวลาเพียงพอถึงวันที่ 7 พ.ย.นี้ เพราะจะเป็นวันสิ้นสุดการยืนราคาประมูล และหากไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องก็ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบ