กรมประมงกวาดล้างเรือ 'ไอยูยู' พ้นน่านน้ำไทย

กรมประมงกวาดล้างเรือ 'ไอยูยู' พ้นน่านน้ำไทย

ลั่นผนึกหน่วยงานรัฐและเอกชน จับกุมเรือต้องสงสัยเข้าข่ายไอยูยู ในน่านน้ำไทยสำเร็จ ลุยสอบข้อเท็จริงต่อ

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อกลางดึกของวันที่ 13 ก.ย.2562 กองทัพเรือ กรมประมง และกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกันจับกุมเรือในเขตน่านน้ำไทย บริเวณชายฝั่งจังหวัดพังงา เป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ ขนาด 3,000 ตันกรอส ชื่อ UTHAIWAN สัญชาติแคมมารูน ตามที่แสดงในระบบรายงานตนอัตโนมัติ (AIS) เนื่องจากเป็นเรือที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเรือที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการทำประมง IUU ในหลายประเทศทั่วโลก

โดยได้รับข้อมูลยืนยันตรงกันว่าเรือลำนี้ น่าจะเป็นเรือลำเดียวกับเรือที่ถูก IOTC ประกาศว่าเป็น เรือ IUU ในอดีตเคยใช้ชื่อ Wisdom Sea Reefer และอ้างว่าถือธงสัญชาติ Honduras โดยกรมประมงได้เริ่มดำเนินการติดตามเรือลำดังกล่าวทางระบบ AIS ตั้งแต่เรือออกจากท่าที่ประเทศกัมพูชาในวันที่ 2 ก.ย.2562 ซึ่งเรือลำดังกล่าว

จนกระทั่งวันที่ 14 ก.ย.2562 เวลา 01.30 น. ชุดสหวิชาชีพร่วมกับชุดตรวจค้นจากเรือ ต.113 ได้ขึ้นทำการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าเป็นเรือ IUU จริง มีลูกเรือจำนวน 8 คน เป็นชาวไทยทั้งหมด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหามีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 94 ห้ามมิให้ผู้ใดนำเรือประมงที่มิใช่เรือประมงไทย ที่มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร และควบคุมเรือลำดังกล่าวเดินทางกลับมายังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การจับกุมเรือในครั้งนี้ เป็นการทำงานแบบบูรณาการอย่างแท้จริง ได้รับความร่วมมือทั้งจาก Interpol OceanMind กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง และเอกชนในจังหวัดภูเก็ตที่อนุญาตให้ใช้ “เรือธัญวิสิทธิ์ 5” และพร้อมออกปฏิบัติการได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญาการกระทำประมง IUU

ขณะนี้ กรมประมง กำลังร่วมกับทีมสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะประวัติการทำประมง และการใช้แรงงาน โดยเฉพาะประวัติการขนถ่ายสัตว์น้ำของเรือลำนี้ในน่านน้ำประเทศต่างๆ เพื่อนำสัตว์น้ำ IUU เข้าสู่วงจรการผลิตและบริโภคในแต่ละประเทศ เและประวัติการถือธงของเรือลำนี้ ซึ่งทราบเบื้องต้นว่ามีการกล่าวอ้างว่าได้รับอนุญาตให้ถือธงจากหลายประเทศ โดยอาจมีทั้งที่ใช้เอกสารจริง และเอกสารปลอม

“ทั้งหมดนี้เราจะตรวจสอบทั้งหมดอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อว่าจะได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการปรับปรุงกลไก และความร่วมมือระหว่าง นานาประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในการรับมือกับปัญหาการทำประมง IUU”