วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (6 ก.ย.62)

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ  สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ส.ค. 62 ว่าปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะปรับลดลงราว 2.5 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 12.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- ตลาดยังคงกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยืดเยื้อและส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันโลกหลังการเจรจาร่วมเมื่อเดือนที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้ว่าล่าสุดจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย หลังทั้งสองประเทศยืนยันการเจรจาของผู้นำระดับสูงในเดือน ต.ค. นี้ก็ตาม

- CFO ของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง BP ออกมาให้ความเห็นว่าสงครามการค้าสหรัฐฯ - จีนจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2562 นี้ อาจขยายตัวต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือต่ำกว่าการขยายตัวในปี 2561 ที่ผ่านมา ทั้งมองว่าการเปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันเตาสำหรับเดินเรือในปีหน้าที่คาดว่าจะหนุนความต้องการใช้น้ำมัน ก็ยังไม่มีทิศทางที่แน่นอน

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยตลาดคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการที่โรงกลั่นหลายแห่งในเอเชียกำลังจะเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง แม้ว่าปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์จะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ก็ตาม

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์