รอซื้อแนวรับ

รอซื้อแนวรับ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงแรง คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ โดยคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ประกอบกับการประท้วงในฮ่องกงที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของการ Brexit นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 1.5 พันลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,642.25 จุด (-11.86 จุด -0.72%) Volume 6.2 หมื่นลบ. TFEX Net +3,979 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +526 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 3.7 พันลบ. ค่าเงินบาท 30.61 บาท/US

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 285.26 จุด -1.08% หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ประกอบกับมาตรการตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐและจีนเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

-ISM เผยภาคการผลิตสหรัฐในเดือนส.ค. หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สอดคล้องกับที่"มาร์กิต"เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐในเดือนส.ค.ต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปี จากผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐและจีนทำให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัว

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.16 ดอลลาร์ -2.1% ปิดที่ 53.94 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลว่าภาคการผลิตของสหรัฐและยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก แรงกดดันจากข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน และการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกที่สูงขึ้นในเดือนส.ค.

-โกลด์แมน แซคส์เพิ่มแนวโน้มอังกฤษแยกตัวจาก EU โดยไร้ข้อตกลง

-สหรัฐเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.1%MoM พลิกจากลดลง 0.7%MoM ในเดือนมิ.ย. แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

-สภาผู้ส่งออกคงคาดส่งออกไทยปีนี้หดตัว 1% บนสมมติฐานค่าเงินบาท 33.0 (+/- 0.5) บาท/เหรียญสหรัฐฯ

*จับตาสหรัฐเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนส.ค. และ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ และวันนี้มีประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี จากความวิตดกังวลการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ประกอบกับความไม่แน่นอนในสถานการณ์ Brexit คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

AUCT | Analyst Meeting | ราคาเหมาะสม 8.00 บาท | คาดกำไรปีนี้ทำ New High

(+) ผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแนวโน้ม 2H62 จะโตดีกว่า 1H62 ตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับได้ผลบวกจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเข้มงวดขึ้น ส่งผลให้มีรถยืดเข้าสู่ตลาดการประมูลมากขึ้น

(+) ปัจจุบันสำนักงานใหญ่(เหม่งจ๋าย) มีบางวันขยายเวลาประมูลถึง 20:00 น. จากเดิม 17:30 น. และมีเปิดทำการในวันอังคารเพิ่มเติม จากเดิมที่เปิดทำการเพียงแค่วันพฤหัสและวันเสาร์ เบื้องต้น

(+) เราคาดกำไรปี 62 ราว 203 ลบ. +19%YoY อย่างไรก็ดี กำไร 1H62 เท่ากับ 102.4 ลบ. +47% (คิดเป็น 51% ของประมาณการ) ดังนั้นเราจึงเตรียมปรับประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (ERW CENTEL AOT BJC CPALL TNP) หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO) เก็งกำไรดัชนี BDI สูงสุดในรอบ 9 ปี (PSL TTA)

หุ้นมีข่าว   

·         ASAP : Analyst meeting  "ต้นทุนทางการเงินยังกดดันผลประกอบการ" (Bloomberg consensus 3.15บาท)

      (0)  รายได้2Q19 เติบโต 17%YoY จากการขยาย long-term rental เป็นหลัก ขณะที่ยอดขาย  Used car ยังคงหดตัวต่อเนื่องตามสภาวะตลาดรถมือสอง

      (+) คาด short-term rental จะสามารถ break even ได้ภายในปี 19 จากจำนวนรถเช่ารายวันที่สามารถแตะระดับ 1 แสนคัน/ปี

      (+) ASAP App ที่ทยอยเปิดให้บริการหลากหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้บริการ คาดจะสามารถช่วยเพิ่ม utilization ของรถได้

      (-)  ต้นทุนทางการเงินยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ net margin ปรับตัวลดลงจากระดับ 3% เหลือเพียง 1-2% จากการเพิ่มจำนวนรถใหม่ 6.7 พันคันในช่วงปี 18 (ปกติอยู่ที่ระดับ 4 พันคันต่อปี) 

       Bloomberg consensus คาดกำไรปี19 เท่ากับ 44.80 ล้านบาท -50.02%YoY

·         TEAMG (Bloomberg Consensus - บาท)   เซ็นสัญญารับงานที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น สำหรับแหล่งน้ำใต้ดินในเมืองดิลี ที่ติมอร์ เลสเต ลุยเข้ารับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โชว์แบ็กล็อก 3,200 ล้านบาท หนุนรายได้ปีนี้โต 10-15% เดินหน้าประมูลงานในไทย-ต่างประเทศราว 3,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         TRITN (Bloomberg Consensus - บาท) ลงทุนโรงไฟฟ้าหนองรี ชี้ผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR) ประมาณ 15% พร้อมคาดคืนทุนภายในระยะเวลา 7 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         MC (Bloomberg Consensus 7.47 บาท) แจ้งบริษัทย่อย ลุค บาลานซ์ขายหุ้นทั้งหมด 51% ใน ไทม์ เดคโคมูลค่ารวม 30 ล้านบาท รับรู้ขาดทุนในงบไตรมาสแรก (ก.ค.-ก.ย. 62) ราว 38 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         SGP (Bloomberg Consensus - บาทคาดผลงานครึ่งปีหลังโต แย้มไตรมาส 3/62 พลิกมีกำไร หลังดีมานด์ใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น-ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ วางเป้ารายได้ปี 62 พุ่ง 7.5 หมื่นล้านบาท ลั่นปริมาณการขายก๊าซ LPG 3.77 ล้านตัน โต 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         CWT (ราคาเหมาะสม - บาท)    เผยส่ง "สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น" ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จับมือ "โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง" เซ็น MOU รับงานวิจัยและพัฒนาออกแบบการผลิตและทำการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Motorbike) กับ "อีทราน (ไทยแลนด์)" รับออเดอร์ล็อตแรก 3,000 คัน คาดส่งมอบไตรมาส 1/2563 (ที่มา ทันหุ้น)

·         DDD (Bloomberg Consensus 20.23 บาทซุ่มดีลซื้อกิจการ "เฮลธ์แคร์" ในประเทศ มูลค่าราว 700 ล้านบาท อัพฐานโกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนช่วง Q4/2562 แถมเดินหน้าหาพาร์ตเนอร์ในจีน อัพฐานแดนมังกรเพิ่ม บิ๊ก "ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์" หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1 พันล้านบาท จากเดิมที่วางไว้โต 10% จากปีก่อนที่ราว 1.3 พันล้านบาท หลังยกเลิกตัวแทนจำหน่ายแบบดั้งเดิม พร้อมจัดทีมลุยเจาะร้านค้าโดยตรงทดแทน (ที่มา ทันหุ้น)

·         EGCO (Bloomberg Consensus 318.70 บาท) ครึ่งปีหลังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้าพอร์ต 383 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น พร้อมเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้า 4 โครงการ กำลังการผลิต 440 เมกะวัตต์ เล็งจับมือพันธมิตรลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในไต้หวัน 2 แห่ง คาดชัดเจนปีนี้ เผยนิคมเอ็กโกระยอง คาดได้ EIA กลางปี 2563 ขณะที่อยู่ระหว่างศึกษาแตกพาร์ (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) PTTGC (Bloomberg Consensus 64.02 บาท)  จับมือ Kuraray-Sumitomo วางศิลาฤกษ์โครงการเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ เพื่อต่อยอดขยายลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ EEC เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา (ที่มาข่าวหุ้น)