“ทรัมป์”ยืนยันเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามแผน

“ทรัมป์”ยืนยันเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามแผน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยืนยันเมื่อวันศุกร์ (30ส.ค.)ว่าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 15% มูลค่า 112,000 ล้านดอลลาร์ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ยังคงเป็นไปตามแผน แม้ว่าจะถูกตำหนิจากบรรดาบริษัทอเมริกัน

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังกล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนก.ย.ยังคงดำเนินการตามแผนและขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกำลังหารือประเด็นการค้ากับคณะเจ้าหน้าที่ของจีน

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความโจมตีบริษัทสหรัฐ โดยระบุว่า บริษัทเหล่านี้ใช้การทำสงครามการค้ากับจีนเป็นข้ออ้างว่าได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริษัท แทนที่จะหันมาดูว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่ย่ำแย่

"ถ้าเฟดเพียงแค่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เราก็จะเห็นตลาดหุ้นพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี แต่บริษัทที่มีการบริหารงานที่ย่ำแย่และอ่อนแอกำลังตำหนิการขึ้นภาษีเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ แทนที่จะตำหนิตัวเองที่มีการบริหารงานผิดพลาด และใครจะตำหนิพวกเขาที่ทำเช่นนี้ นี่เป็นข้ออ้างชัดๆ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ก่อนหน้านี้ กลุ่มธุรกิจมากกว่า 160 กลุ่มในสหรัฐได้รวมตัวกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เลื่อนการเรียกเก็บภาษีทั้งหมดที่มีต่อจีนในปีนี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าราคาแพงในช่วงเทศกาลวันหยุด

กลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้รวมตัวกันใช้ชื่อว่า "พันธมิตรการค้าเสรีสำหรับชาวอเมริกัน" โดยประกอบด้วยกลุ่มสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ, สมาคมผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีก, สมาคมผู้ผลิตเครื่องมือ และสมาคมเทคโนโลยีผู้บริโภค เป็นต้น

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตรองเท้าสหรัฐจำนวนกว่า 200 บริษัทก็ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีต่อจีนที่มีกำหนดในเดือนหน้า โดยระบุว่าการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะเพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ