ตร.แจงกรณีจับบ่อนลาดพร้าว เผยฟันข้อหาคนดูแลบ่อนแล้ว

ตร.แจงกรณีจับบ่อนลาดพร้าว เผยฟันข้อหาคนดูแลบ่อนแล้ว

รองโฆษก ตร. เผยความคืบหน้ากรณีตำรวจสน.ลาดพร้าว สนธิกำลังจนท.ปกครอง ทลายบ่อน 2 แห่ง ได้แจ้งข้อหากับผู้ดูแลบ่อยแล้ว

วันนี้ (30ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฝ่ายปกครองผนึกตร.ลาดพร้าว ทลายบ่อน ในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว ว่า ได้รับรายงานจาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ว่าเมื่อวันที่ (29 ส.ค. 62) เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้บูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกันตรวจสอบ บริเวณที่เกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง จุดแรกอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 127 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จุดที่ 2 อยู่บริเวณซอยนวมินทร์6 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงพบทั้งผู้ดูแล และผู้เล่น รวมทั้งหมดจำนวน 22 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้เล่นและผู้ดูแลพร้อมของกลางทั้งหมดไปที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พันตำรวจเอก กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจับกุมบ่อมการพนันในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ซึ่งในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ดูแล ในข้อหา ”จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกัน และเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้” และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เล่น ในข้อหา “ลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย” ประกอบกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าวแล้ว หากพบข้อบกพร่องหรือมีการปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันเกิดขึ้น ก็จะดำเนินการทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้อง ตามคำสั่ง 234/2558 อย่างเด็ดขาด

พันตำรวจเอก กฤษณะ กล่าวด้วยว่า ซึ่งที่ผ่านมา พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับ ผู้บังคับการตำรวจทุกพื้นที่ ลงไปกำกับอย่างใกล้ชิด ในการป้องกันปราบปราม ไม่ให้มีการปล่อยปละละเลย อบายมุข บ่อนการพนัน สถานบริการ ยาเสพติด หรือการค้ามนุษย์ เกิดขึ้น โดยจะพิจารณาข้อบกพร่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบทุกระดับชั้น ตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2558 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปราบอบายมุข ที่ปล่อยปละละเลยให้มีอบายมุขต่างๆเกิดขึ้นในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ คงต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นเสียก่อนว่า ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย