'คต.' เผย ค้าชายแดน-ผ่านแดน 7 เดือนปี 62 โต 1.67%

'คต.' เผย ค้าชายแดน-ผ่านแดน 7 เดือนปี 62 โต 1.67%

กรมการค้าต่างประเทศ เผยการค้าชายแดน-ผ่านแดน 7 เดือนปี 62 มีมูลค่า 806,232.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.67% มาเลเซียยังเป็นคู่ค้าชายแดนอันดับหนึ่งของไทย ด้านการค้าผ่านแดน จีนตอนใต้เพิ่มแรง 40.83% มั่นใจในช่วงที่เหลือของปีนี้ การค้ายังคงสดใส

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยตั้งแต่เดือน ม.ค-ก.ค.หรือ 7 เดือนของปี 2562 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 806,232.63 ล้านบาท ขยายตัว 1.67% เป็นการส่งออก 446,517.75 ล้านบาท ลดลง 0.55% และการนำเข้า 359,714.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.56% ซึ่งเกินดุลการค้า 86,802.87 ล้านบาท โดยแยกเป็น การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 646,284.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.46% เป็นการส่งออก 362,241.25 ล้านบาท ลดลง 3.61% นำเข้า 284,043.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.17% เกินดุลการค้า 78,198.20 ล้านบาท และ การค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 159,948.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.85%เป็นการส่งออก 84,276.49 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15.11% นำเข้า 75,671.83 ล้านบาท ลดลง 1.06% เกินดุลการค้า 8,604.66 ล้านบาท


ทั้งนี้ การค้าชายแดน มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 318,194.49 ล้านบาท ลดลง 2.49% เป็นการส่งออก 150,497.27 ล้านบาท ลดลง 11.30% นำเข้า 167,697.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.05% รองลงมาคือ เมียนมา มูลค่า 118,583.91 ล้านบาท สปป.ลาว มูลค่า 116,346.28 ล้านบาท และกัมพูชา มูลค่า 93,159.63 ล้านบาท ขณะที่การค้าผ่านแดนจีนตอนใต้มีมูลค่าสูงสุด มูลค่า 73,616.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.83% เป็นการส่งออก 31,208.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.22% นำเข้า 42,407.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.84% รองลงมาคือ เวียดนาม มูลค่า 43,751.49 ล้านบาท และสิงคโปร์ มูลค่า 42,580.60 ล้านบาท


“ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ได้แก่ ความยืดเยื้อของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ยังมีความไม่แน่นอนในการเจรจาหาข้อยุติ ปัญหาข้อพิพาทและขัดแย้งของประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ อินเดีย-ปากีสถาน เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น และการประท้วงในฮ่องกง รวมถึงการถอนตัวออกจากประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ของอังกฤษ ในวันที่ 31 ต.ค นี้ รวมถึงความผันผวนของค่าเงินของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค”


สำหรับสถานการณ์การค้าชายแดนด้านมาเลเซีย การส่งออกยังคงหดตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ายางพาราผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ขณะที่ สปป.ลาว การส่งออกยังคงหดตัวลง อาทิ น้ำมันดีเซลน้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์ฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ ด้านเมียนมา การส่งออกยังคงมีการชะลอตัวเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับกัมพูชา สถานการณ์การค้ามีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกขยายตัวถึง 21.09% โดยเฉพาะการส่งกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ อุปกรณ์ฯ เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาที่เหลือในปี 2562 กรมฯ ได้เร่งจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและเป้าที่กรมไว้วางไว้ 1.66 ล้านบาท ได้แก่ กิจกรรมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) เตรียมนำกลุ่ม YEN-D Program สร้างความสัมพันธ์และเจรจาจับคู่ธุรกิจ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย. 2562 และกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 20-22 ก.ย. 2562 นอกจากนี้ ยังมีกำหนดจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มุกดาหาร-สะหวันนะเขต "สานสัมพันธ์การค้า เชื่อมโยงสองฝั่งโขง" ระหว่างวันที่ 12 – 15 กันยายน 2562 ณ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจะนำทัพผู้ประกอบการทั้งไทยและสปป.ลาว จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้ผู้ประกอบการไทยทั้ง SMEs/Start up และจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศ และจัดประชุมหารือ-เอกชนของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างกัน

info