23 จังหวัด ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก-วาตภัย เดือดร้อน 1,113 หลังคาเรือน

23 จังหวัด ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก-วาตภัย เดือดร้อน 1,113 หลังคาเรือน

ประชาชนในพื้นที่ 23 จังหวัด ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก-วาตภัย เดือดร้อน 1,113 หลังคาเรือน

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2562 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ สตูล ตราด ปัตตานี กาญจนบุรี อุดรธานี ตรัง นครนายก ระนอง อุบลราชธานี หนองคาย น่าน เชียงใหม่ บึงกาฬ เชียงราย สกลนคร นครพนม พะเยา อุตรดิตถ์ มุกดาหาร เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน แพร่ และร้อยเอ็ด รวม 69 อำเภอ 140 ตำบล 244 หมู่บ้าน

บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,113 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง เรือ 2 ลำ วัด 1 แห่ง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (แม่ฮ่องสอน) สูญหาย 1 ราย (แม่ฮ่องสอน) ยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เกิดน้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ลาว อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงแก่น อำเภอป่าแดด อำเภอเทิง อำเภอพาน และอำเภอเชียงแสน รวม 16 ตำบล 27 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลด แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รวม 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ร้อยเอ็ด เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำภอ ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพนทอง อำเภอโพธิ์ชัย และอำเภอหนองพอก รวม 9 ตำบล 14 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้ช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออก เฉียงเหนือ มีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ซึ่ง ปภ.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป