สงครามการค้าระอุ

สงครามการค้าระอุ

ดัชนีวานนี้ปรับตัวขึ้นแรง สวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่

โดยดัชนีถูกหนุนด้วยหุ้นรายตัว อาทิ CPALL AOT BDMS และ KBANK นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะซื้อสุทธิกว่า 1.5 พันลบ.  ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,646.68 จุด (+13.66 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. TFEX Net -1,636 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -3,170 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+"เบเกอร์ ฮิวจ์"เผยแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง 16 แท่นสู่ระดับ 754 แท่น ต่ำสุดรอบกว่า 1 ปี

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 1.2 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.60 บาท/US

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 623.34 จุด -2.37% เนื่องจากนลท.วิตกกับการที่จีนตอบโต้สหรัฐด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์  และผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการกล่าวสุนทรพจน์ที่แจ็กสันโฮล

-สงครามการค้าทวีความรุนแรงหลังปธน.ทรัมป์ตอบโต้การที่จีนเรียกเก็บภาษี 25% รถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ และ 5% ต่อชิ้นส่วนรถยนต์สหรัฐมีผล 15 ธ.ค. ด้วยการสั่งให้บริษัทสหรัฐถอนตัวออกจากจีนและสั่งให้บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์สหรัฐปฏิเสธการส่งยา Fentanyl จากศจีนหรือปท.อื่นเข้ามาในสหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.18 ดอลลาร์ -2.1% ปิดที่ 54.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยถูกกดดันจากการที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนอีกวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์

-เฟดนิวยอร์กหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 หลังยอดขายบ้านใหม่ทรุด

- MSCI ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 0.08% มีผล 27 ส.ค.

 

*จับตาสหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. และดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ค. และจับตาการเมืองในประเทศมีประเด็น sensitive หลายเรื่องทั้งในเรื่องไพบูลย์โมเดลและปมนายกฯถวายสัตย์ฯไม่ครบ

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโลก หลังจากจีนได้ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ได้ตอบโต้โดยการประกษศปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 5% มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ประกอบกับหุ้นกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง -2.1% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,630 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

RSP Analyst Meeting ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus  3.50 บาท

  • เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางผลประกอบการ 2H19 ที่ได้แรงหนุนจาก

- กำลังซื้อของประชาชนที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

- การทยอยปิดสาขาที่ Underperform และเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายต่อสาขามากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาของ Converse และ Pony ไว้ที่ระดับ 5-10 สาขา และ Barrel อีก 6 สาขา

- พยายามสร้าง Brand awareness ผ่าน Social media ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าช่องทางปกติ

 นอกจากนั้นบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาซื้อแบรนด์เพิ่มเติมเพื่อขยายการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 19 ไว้ที่ระดับ 196 ล้านบาท เติบโต 28.6%YoY

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC) หุ้น High Dividend (SIRI QH TISCO KKP ANAN) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (ERW CENTEL AOT BJC CPALL TNP) หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO)

ส่องหุ้น

            TFG             แนวรับ 5.05 บาท                 แนวต้าน 5.25 , 5.45-5.55 บาท

            SRICHA        แนวรับ 10.00 , 9.80 บาท     แนวต้าน 10.90, 11.60, 12.10 บาท

            AU               แนวรับ 14.60-14.30 บาท     แนวต้าน 15.10-15.20 , 15.70 บาท

หุ้นมีข่าว   

·      FVC ลั่นรายได้ปีนี้โต 10% ลุ้น วุฒิศักดิ์ คลินิก” พลิกกลับมามีกำไร หลังปิดสาขาไป 7 สาขา พร้อมขายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ช่วยประหยัดไฟฟ้าในเครื่องปรับอากาศ-ขยายศูนย์ฟอกไตเพิ่มเป็น 10 แห่ง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      TOA (Bloomberg Consensus 34.88 บาท) คาดครึ่งปีหลังแจ่ม! โชว์โรงงานในต่างประเทศ 3 แห่ง ทั้งอินโดนีเซีย-เมียนมา-กัมพูชา ทยอยผลิตในปีนี้ โบรกฯ ประเมินปีนี้ฟันกำไรสุทธิ 2,318 ล้านบาท โต 27% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      BGC (Bloomberg Consensus 14.95 บาท) ลือหึ่ง! BGC ซุ่มเจรจาซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามต่อจาก EPCO มูลค่าลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท คาดปิดดีลในเร็วๆ นี้ ขณะที่ผู้บริหาร BGC แย้มอยู่ระหว่างเจรจา M&A อยู่ 5 ดีล มูลค่าลงทุน 50-1,000 ล้านบาท/ดีล คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีหลัง ฟาก EPCO ยอมรับมีผู้สนใจเสนอซื้อโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือทั้งในไทยและต่างประเทศ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      JASIF (Bloomberg Consensus 5.60 บาท) ผู้ถือหน่วยไฟเขียวเพิ่มทุน 3.8 หมื่นล้านบาท ตุลาคมนี้เคาะราคา จำนวนหน่วย ก่อนประกาศเสนอขายหน่วยลงทุน ด้านเงินปันผลมั่นใจให้สูงกว่าปัจจุบันที่ 8-9% ด้านผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS พร้อมใช้สิทธิส่วนเกินเข้าถือหน่วยลงทุนใหม่สูงถึง 33% การันตี 6 เดือนแรกไม่เทขายหน่วยต่ำกว่า 33% แน่นอน ด้านกองทุนฯ ตั้งเป้าหมายคืนเงินกู้ทบต้นทบดอกให้หมดภายในระยะเวลา 10 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      BEM (Bloomberg Consensus 11.80 บาท) ลุ้นวันนี้ ปลัดคมนาคมเคาะผลสรุปขยายสัมปทานทางด่วน BEM แลกยุติทุกข้อพิพาทกทพ. ก่อนชง ศักดิ์สยามพิจารณา 27 ส.ค.นี้ ขณะที่ประธานบอร์ดกทพ.ยันไม่รื้อเจรจาใหม่ แถมกรรมาธิการเสียงข้างมากโหวตให้ต่อสัญญา (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      SISB ครึ่งหลังขยายนักเรียนใหม่เข้าเป้า 200-250 คนต่อปี อัพค่าเรียนเพิ่ม 5% หนุนรายได้ปีนี้เติบโต 15-20% เดินหน้าหาพันธมิตรร่วมทุน-ควบรวม ลุยสร้างโรงเรียนรองรับอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

·      NETBAY (Bloomberg Consensus 39.00 บาท) กางแผนรุกขยายธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มกลุ่มออนไลน์ ชี้อัตราการเติบโตสูง แถมปริมาณทำธุรกรรมพุ่งขึ้นตามเทรนด์ มั่นใจรายได้โตตามเป้า 15% หลังโกยกำไรในไตรมาส 2/62 แล้ว 45.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

·      QTC แย้มเตรียมจรดปากกาเซ็นสัญญารับงานใหม่ 300 ล้านบาท ดัน Backlog สิ้นปีทะลุ 500 ล้านบาท เน้นขายสินค้า Smart Transformer และ Super Low Loss Transformer ตั้งเป้าโกยยอด 50 ล้านบาท การันตีผลงานปีนี้เข้าเป้า 1.2 พันล้านบาท พร้อมทำนิวไฮ(ที่มา ทันหุ้น)

·      EASTW (Bloomberg Consensus 15.73 บาท)  รุกบริการน้ำครบวงจร ทั้งน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย และการรีไซเคิลน้ำเต็มรูปแบบ หวังขึ้นแท่นสู่ผู้นำการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจรของประเทศ ตุนพอร์ตลูกค้าในมือเพียบ ด้าน "ทริสเรทติ้ง" คงอันดับเครดิตอยู่ที่ A+ สะท้อนอัตรากำไรที่ดีและมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ (ที่มา ทันหุ้น)

·      ธปท.จ่อประกาศใช้แนวนโยบายการให้สินเชื่อรายย่อยอย่างเหมาะสม คุมพฤติกรรมแบงก์ ดีเดย์ 1 ม.ค. 63 เปิดรับฟังความเห็นถึง 30 ส.ค.นี้ รอง ผู้ว่าฯการ ธปท.ระบุปีหน้าแบงก์ชาติติดตามพฤติกรรมปล่อยกู้รายย่อยใกล้ชิดเป็นรายแบงก์-ให้รายงานข้อมูลทุกสัญญา (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ)

·      ความเห็น เป็นข่าวอัพเดทของหุ้นกลุ่มธนาคารส่งผลทั้งบวกและลบ ผลลบคือกดดันการขยายตัวของสินเชื่อซึ่งเป็นแหล่งที่มาของรายได้ดอกเบี้ยรับ แต่เป็นผลดีกับคุณภาพสินทรัพย์ ช่วยกด NPL ไม่ให้สูงขึ้นในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

·      (-) BLA กรุงเทพประกันชีวิต เฉือนเป้าธุรกิจจากโต 10% เหลือหลักเดียว ตามภาวะตลาดเศรษฐกิจ สอดคล้องสมาคมประกันชีวิตไทยลดเป้าธุรกิจปี 62 โต 0%-ติดลบ 3% จ่อพบคปภ.ถกปัญหาดอกเบี้ยต่ำ-ตั้งสำรองสูง กระทบกำไรขาดทุน (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)

·      ความเห็น BLA เคยมีผลการดำเนินงานขาดทุน 261 ล้านบาทในช่วง 3Q60 จากการเพิ่มอัตราการตั้งสำรองเบี้ยประกันชีวิตที่เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัจจุบันมีภาวะเช่นเดียวกันอีก จึงมีความเสี่ยงที่จะมีการตั้งสำรองฯเพิ่มและส่งผลลบต่อผลการดำเนินงาน