5นายพล ชิงดำ 'น1.' แม่ทัพตร.นครบาล

5นายพล ชิงดำ 'น1.' แม่ทัพตร.นครบาล

เปิดชื่อ 5 นายพล ชิงดำ "ผบช.น." แม่ทัพตร.นครบาล คนใกล้ชิดใครจะคว้าตำแหน่ง

ภายหลังการประชุมให้ข้อมูลประกอบการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงจเรตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) วาระประจำปี 2562 โดยมี พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีข้อสรุปว่าตำแหน่งที่ว่าจะประกอบด้วยดังนี้ รองผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง, ผู้ช่วยผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง, ผบช. 10 ตำแหน่ง และ ผบก. ประมาณ 9 หรือ 10 ตำแหน่ง ตัวเลขไม่แน่นอนเพราะมี 33 เปอร์เซ็นต์ด้วย และมีสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามวงรอบ แต่อย่างไรก็ดียังต้อมีการชี้แจงกรอบ คุณสมบัติ ผู้เหมาะสมแต่ละภาค

แต่ตำแหน่งที่น่าจับตามองไม่แพ้ตำแหน่งใดๆ ก็คือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของตำรวจในเมืองกรุง ที่จะเข้ามาดูแลสานต่อและแก้ปัญหาที่มีอยู่รอบด้าน โดยชื่อที่โดดเด่นขึ้นมาในช่วงโค้งสุดท้าย มี 5 ชื่อ ประกอบด้วย

1. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อนร่วมรุ่น 36 กับผบ.ตร.
2. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นรต.รุ่น 38 ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง สายทำงานเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.
3.พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญาการตำรวจภูธรภาค 9 นรต.รุ่น 36 นักสืบมือระดับพระกาฬแดนใต้ อีกทั้งยังเป็นอดีตมือทำงานนครบาล อาจได้แรกหนุนโยกขึ้นมาหวนคุมนครบาล
4. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นรต.38 ที่มีกระแสว่าอาจเป็นเซอร์ไพรส์ในตำแหน่ง น1. แต่อย่างไรก็ดีมีอีกกระแสที่จะขยับไปคุมพื้นที่ภูธรภาค 2
5.พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. นรต.40 นายตำรวจที่ครบเครื่องคนหนึ่ง ผ่านงานมากหลากหลาย เรียกได้ว่าทั่วประเทศไทย และเป็นอดีตลูกหม้อตำรวจกองปราบ

จากรายชื่อทั้ง 5 ผู้ที่เข้าชิงดำตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ น.1 พอที่จะมองเห็นแสงรำไรว่าทางผู้มีอำนาจ จะเลือกเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับ ผบ.ตร. ที่ไม่ได้มีแค่ชื่อแต่ฝีมือยังถึงอีกด้วย หรือจะเลือกรุ่นน้องที่ฝีไม้ลายมือไม่แพ้พี่ ๆ เช่นกัน

เหลือเวลาแค่เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเสนอชื่อผู้ที่จะขึ้นรับตำแหน่งต่าง ๆ ให้กับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาในวันที่ 29 ส.ค. หากไม่สิ่งใดเปลี่ยนแปลง หรือ “ลมเปลี่ยนทิศ”จะสรุปได้ในวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ บิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. มีตัวเลือกอยู่ในใจไว้แล้วว่าจะเลือกผลักดันใครก้าวขึ้นมา

อย่างไรก็ดี ในปีนี้การคัดเลือกวางตำแหน่งไม่น่ามีความวุ่นวายหรือยืดเยื้อกันเหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะการที่พลเอก ประยุทธ์ ได้ลงมาควบคุมดูแลเอง และกำชับเสมอว่าต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง จะเป็นที่เกรงขามได้มากน้อยเหรือไม่ต้องคอยดูกัน