ระบบล่ม!ประชาชนแห่จองสลากธ.ก.ส.

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ ระบบให้บริการจองสลากออมทรัพย์ชุดเกษตรยั่งยืนในงวดแรกมีปัญหาเชิงเทคนิค เนื่องจาก มีประชาชนให้ความสนใจเข้าจองพร้อมกันจำนวนมาก ธนาคารจึงปิดให้บริการการจองทั้งการจองผ่านแอพริเคชั่น ผ่านสาขา และ ร้านสะดวกซื้อที่ร่วมให้บริการ โดยขอเวลาปรับปรุงในวันนี้(20ส.ค.)คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(21ส.ค.)เป็นต้นไป

“เราไม่คาดว่า จะมีประชาชนให้ความสนใจจองซื้อสลากดังกล่าวจำนวนมาก แต่หลังจากที่เราเปิดให้จองตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา มียอดจองเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ระบบการจองล่ม ดังนั้น เราขอเวลาปรับปรุงระบบ 1 วัน โดยพรุ่งนี้ จะเปิดให้บริการได้ตามปกติ”

สำหรับลิตภัณฑ์เงินฝากภายใต้ชื่อ สลากออมทรัพย์เกษตรยั่งยืน ที่ขายหน่วยละ 20 บาท จะเป็นทั้งเงินฝากและการเสี่ยงโชคคล้ายการเล่นหวยของชาวบ้าน จะเริ่มขายผ่านแอพริเคชั่นธกส.ในวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา และขายผ่านสาขา ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ และเคาวเตอร์เซอร์วิส ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเป้าหมายดึงเงินจากประชาชนรากหญ้าที่ส่วนใหญ่จะลงทุนซื้อหวยเป็นจำนวน 1 หมื่นล้านบาท

ดังนั้น สโลแกนของผลิตภัณฑ์นี้ก็คือ “ออมน้อย,ฝากง่าย,คืนทุน,ลุ้นโชค” โดยฝากขั้นต่ำ 20 บาท หรือ 1 หน่วย ฝาก 24 เดือนถอนไม่ได้ ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน รางวัลละ 20 บาทเป็นระยะเวลา 24 งวด และยังลุ้นรางวัลละ 2,000บาท/ครั้งที่ซื้อ(ซื้อเดือนไหนลุ้นรางวัล 2,000บาทเดือนนั้น)

ในกรณีที่เลขที่ออก ซึ่งมีตัวเลขสี่ตัว และหมวดอักษร ตรงกับรางวัลที่ออก จะได้รับรางวัลละ 2 ล้านบาท สำหรับเลขที่ซื้อในเดือนนั้นๆ ดังนั้น หากซื้อทุกเดือนก็มีโอกาสลุ้นรางวัล 2 พันบาท และ 2 ล้านบาททุกเดือน

นอกจากนี้ ยังได้ลุ้นรางวัลพิเศษทองคำแท่ง รางวัลละ 1 ล้านบาทรวม 2 รางวัล โดยในกรณีที่ซื้อสลากดังกล่าว  6งวดภายใน 1 ปี จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทองคำแท่งดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะซื้อสลากดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีเงินฝากกับ ธกส. การซื้อสลากต่ำสุดอยู่ที่ 20 บาท สูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท/ครั้ง เมื่อฝากครบกำหนด 24เดือน จะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย 0.5 % ต่อปี

การซื้อสลากสามารถซื้อได้ที่สาขาของธนาคาร และ เคาว์เตอร์เซอร์วิส โดยคิดค่าบริการตามมูลค่าที่ซื้อ โดยซื้อไม่เกิน 500 บาทคิดค่าธรรมเนียม 5 บาท ,501 บาทถึง 2 พันบาท คิด 10 บาท และ 2,001 ถึง 3 หมื่นบาทคิด 15 บาท