สิงคโปร์ทุ่ม 7 หมื่นล.ดอลล์ทำคันกั้นทะเล

สิงคโปร์ทุ่ม 7 หมื่นล.ดอลล์ทำคันกั้นทะเล

ผู้นำสิงคโปร์ประกาศนโยบายสำคัญ รวมถึงเพิ่มงบกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์สร้างคันกั้นน้ำทะเล รับมือระดับน้ำสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน และยืดอายุเกษียณเป็น 65 ปี หวังแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

นายกรัฐมนตรีลี เซียน หลุงของสิงคโปร์ กล่าวสุนทรพจน์ประจำปีเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เล็กและพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกหนึ่งภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อมที่สิงคโปร์เผชิญมานานแล้วและประชาชนจำนวนไม่น้อยอาจมองข้ามไปคือระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น สวนทางกับแผ่นดินที่ทรุดตัวลง

“แม้รัฐบาลได้รับมือกับสถานการณ์นี้มาตลอด ด้วยโครงการก่อสร้างคันกั้นน้ำทะเล แต่การที่ภาวการณ์วิกฤติยิ่งขึ้น รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมทุ่มงบประมาณเพิ่มอย่างน้อย 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อการเสริมคันกั้นน้ำทะเลตามแนวชายฝั่ง”

นอกจากนั้น ผู้นำสิงคโปร์ระบุว่า ภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกหรือภาวะโลกร้อนเป็นหนึ่งในความท้าทายครั้งร้ายแรงที่สุดของมนุษยชาติ ซึ่งสิงคโปร์ได้รับผลกระทบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนจัดในฤดูร้อนและฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงฤดูฝน ที่ประมาณน้ำในสะสมในหลายพื้นที่ทำลายสถิติในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กฎหมายด้านการควบคุมอาคารของสิงคโปร์ระบุให้ผู้ก่อสร้างอาคารต้องก่อสร้างอาคารให้สูงกว่าความสูงเฉลี่ยของระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 3 เมตร เพื่อให้เหลือพื้นที่ว่างอย่างน้อย 1 เมตรไว้รับน้ำ ในกรณีเกิดน้ำท่วม

นายลียังยกตัวอย่างโครงสร้างของอาคารผู้โดยสารหมายเลข 5 ในสนามบินนานาชาติชางงีซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปี 2573 ว่า อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 5 เมตร และว่า ทุกภาคส่วนในสิงคโปร์ควรให้ความสำคัญกับปัญหาโลกร้อนในระดับที่ไม่ต่างจาก “ภัยคุกคามทางทหาร” แต่ต่างกันตรงที่สงครามเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นยังมีตัวแปรมากมายที่ “อยู่เหนือการควบคุม”

ยืดอายุเกษียณแก้ขาดแคลนแรงงาน

ขณะเดียวกัน นายกฯสิงคโปร์เผยว่า จะขยายเพดานอายุเกษียณให้กับพนักงานในสิงคโปร์จาก 62 ปีในปัจจุบัน เป็น 65 ปี รวมถึงการเปลี่ยนตัวเลขอายุสำหรับการจ้างงานเพิ่มอีก โดยเพิ่มขึ้นจาก 67 ปี เป็น 70 ปีในกรณีนี้หมายความว่า พนักงานจะต้องได้รับการจ้างงานในองค์กรเดิม

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเพิ่มอัตราเงินบำนาญให้กับพนักงาน เพื่อให้ภายในปี 2573พนักงานคนใดที่มีอายุ 60 ปีหรือต่ำกว่านั้นจะได้รับเงินเต็มอัตรา และได้ทุ่มงบประมาณ 6,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีนี้กับกองทุนที่ที่ดูแลสุขภาพของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

นายลีกล่าวด้วยว่า เตรียมมอบอำนาจให้กับผู้นำคนใหม่ในการเลือกตั้งที่คาดว่าจะจัดขึ้นภายในวันที่ 15 เม.ย. 2564 หลังจากนั่งเก้าอี้ผู้นำมานานแล้วกว่า 15 ปี