"อุตตม"ยันจีดีพีปีนี้โตเกิน3%

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ จีดีพีไตรมาสสองที่สภาพัฒน์ประกาศออกมาเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้คาดการณ์ไว้ จึงเป็นที่มาของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 3.1 แสนล้านบาทครั้งนี้ โดยคาดว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยพยุงจีดีพีให้ขยับเพิ่มได้ 0.55-0.56% ทำให้ทั้งปีจีดีพีจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3%  

“ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่สศช.ประกาศออกมา 2.3% จากไตรมาสแรกโต 2.8% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้น รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังดูแลไม่ให้เศรษฐกิจไทยกระทบมากเกินไป ซึ่งมาตรการเศรษฐกิจที่จะออกมานั้นมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวไม่ต่ำกว่า 0.55-0.56%ถ้าปล่อยเป็นตามธรรมชาติโดยไม่มีมาตรการเข้ามาช่วย อาจทำให้ปีนี้จีดีพีต่ำกว่า 3% ”

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพร้อมเสนอมาตรการกระตุ้นและดูแลเศรษฐกิจวงเงินรวม 3.1 แสนล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้(20ส.ค.)หลังครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจากมาตรการผ่านครม.แล้ว บางมาตรการจะเริ่มได้ภายในสิ้นเดือนนี้

สำหรับมาตรการช่วยภัยแล้ง และช่วยเหลือเกษตรกร ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) พร้อมจะดำเนินการทันทีช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ ส่วนมาตรการแจกเงินท่องเที่ยวคนละ 1 พันบาทให้กับประชาชน 10 ล้านคนนั้นเริ่มสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.ย.นี้ เนื่องจากต้องมีการจัดทำระบบ และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะมาช่วยประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อให้โครงการมีความเข้มข้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องการใส่เงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการจะแจกทันทีในเดือนส.ค.และก.ย.นี้

“มาตรการกระตุ้นเริ่มใช้ทันทีในเดือนส.ค.นี้ และดำเนินการต่อเนื่องไปอีก ดังนั้น คาดว่าชุดมาตรการจะออกมาช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ผู้บริโภค ร้านค้าต่างๆ ได้ หลังจากนี้จะมีมาตรการของกระทรวงอื่นๆ เช่น มาตรการท่องเที่ยวเพิ่มเติม มาตรการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ดังนั้นเชื่อว่ามาตรการของรัฐบาลจะออกมานั้นเพียงพอรับมือภาวะเศรษฐกิจในปีนี้”

เขากล่าวต่อถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการยกเว้นวีซ่ากับประเทศจีน-อินเดียเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวว่า มาตรการนี้ผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจ ซึ่งมอบให้ไปปรึกษาหารือกับกระทรวงต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคง โดยยืนยันจะเสนอมาตรการนี้เข้าสู่ครม.วันที่ 20 ส.คนี้ ส่วนที่มีข้อไม่เห็นด้วยนั้นขอไปหารือในที่ประชุมครม. ถ้าที่ประชุมไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร และถ้าไม่มีมาตรการนี้จะไม่มีผลต่อการกระตุ้นภาพรวม เพราะการกระตุ้นนั้นเน้นการบริโภคภายในเป็นหลัก

ส่วนในเรื่องแจกเงินท่องเที่ยวต้องให้ลงทะเบียน เนื่องจาก ต้องให้ทราบตัวตนของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยยืนยันว่ามาตรการนี้จะมีประชาชนเข้าร่วมตามเป้าหมาย 10 ล้านคน เพราะให้คืนเงินถึง 15% ถือว่าเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)เพราะมีคนกังวลถูกตรวจสอบภาษี ดังนั้น จึงคิดว่าไม่ซ้ำรอยมาตรการช้อปตรุษจีนที่คนเข้าร่วมน้อยแน่นอน  

นายอุตตมกล่าวต่อว่า นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกระตุ้นให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) อบจ. อบต.นำเงินที่มีอยู่และกระจายอยู่ในอปท. 7,500 แห่ง มาลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง