'ดร.โอ๊ะ' หนุน กศน. อัพบุคลิกภาพผู้เรียนสู่การมีงานทำ

 'ดร.โอ๊ะ' หนุน กศน. อัพบุคลิกภาพผู้เรียนสู่การมีงานทำ

"ดร.โอ๊ะ" เปิดโครงการค่ายอบรมพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐานสู่อาชีวศึกษาและการมีงานทำ หนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานกศน.ย้ำบุคลิกภาพ เครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคนสู่โลกการทำงาน

วานนี้ (18 ส.ค.) ที่วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) เป็นประธานเปิดโครงการค่ายอบรมพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐานสู่ภาคอาชีวศึกษา และการมีงานทำ โดยมี ดร.ศรีชัย พรประชาธรรม เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) นายบุญลือ ทองเกตุแก้ว ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยผู้เรียนให้การต้อนรับ

ดร.กนกวรรณ กล่าวว่าโครงการดังกล่าว เป็นเรื่องที่กศน.ให้ความสำคัญในการบูรณาการทุกภาคส่วน ตั้งแต่กศน. วิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมกันเพื่อผลิตเด็กให้เป็นผู้ที่ได้เรียนรู้ ทำงานตรงกับเป้าประสงค์ และตลาดแรงงานโดยต้องเป็นการเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะศธ.จะไม่ทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งโครงการวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปรับภาพลักษณ์ผู้เรียนกศน. เพราะบุคลิกภาพ เป็นเครื่องมือที่สำคัญของบุคคลที่จะต้องเกี่ยวข้องในการทำงาน การพบปะครั้งแรกเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะต้องอาศัยทั้งทักษะการวางตัว และการรักษาภาพลักษณ์อย่างมืออาชีพ ดังนั้น การพัฒนาบุคลิกภาพ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายของผู้เข้ารับการอบรม และถือว่าเป็นความโชคดีที่ได้ร่วมกิจกรรมที่ดี ได้เตรียมความพร้อมในการสร้างความประทับใจ รวมทั้งสามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ ให้ก้าวทันโลกที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ขอขอบคุณเลขาธิการกศน. รองเลขากศน. และพี่น้องกศน. ทั้งประเทศไทย ที่ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรดังกล่าว

"พี่น้องกศน. นักศึกษากศน.ทุกคน มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี มีความภาคภูมิในใจตนเองอยู่แล้ว ซึ่งเราอยากให้สังคมมอง กศน.ว่าเราเป็นคนไทยเหมือนกัน ทุกคนมีมิติแตกต่างกัน ใครจะปรามาสเราอย่าไปสนใจ ขอบคุณเขาแล้วทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ศธ.รับงานจากนายกฯ มาจำนวนมากเพื่อจะมาพัฒนาการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ต่อไปจะรวบรวมคนที่เรียนกศน. แล้วประสบความสำเร็จมาเป็นตัวอย่าง คนแรกคือ คุณพ่อ นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่กศน.ให้โอกาสในการมีงานทำ เข้าสู่การเมือง ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้น ขอให้มั่นใจ พัฒนาตัวเองให้ดี" ดร.กนกวรรณ กล่าว

ดร.กนกวรรณ กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนกศน.อย่างแท้จริง เพราะได้มีโอกาสเป็นประธาน เป็นกรรมการของกศน. และได้เข้าอบรมกับพี่น้องครูกศน. ซึ่งทำให้เห็นว่าครูกศน.มีความสามารถในวิถีความเป็นครู สิ่งเหล่านี้ทำให้มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ได้แลกเปลี่ยน และพร้อมจะสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ โดยจะทำให้มีความสะดวกมากขึ้น มีการสะสมหน่วยกิต และเพิ่มทักษะวิชาชีพให้มากและหลากหลาย ปรับปรุงประสิทธิภาพออนไลน์ให้มากขึ้น นักศึกษากศน.สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาตามความรัก ความถนัดและความชอบจริงๆ รวมถึงมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และภาษาอื่นๆ อย่างภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้นักศึกษากศน.มีอาชีพที่มั่นคงในอนาคต มีรายได้ที่สามารถดูแลตนเอง ครอบครัวได้ โดยในส่วนของการพัฒนาภาษาอังกฤษนั้น จะนำร่องพัฒนาภาษาอังกฤษของครูกศน. เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเด็ก อย่างไรก็ตาม ทุกเรื่องเหล่านี้ ได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว และในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งความรับผิดชอบในการดำเนินการ เรื่องใดที่ทำได้จะทำทันทีโดยใช้งบประมาณเหลือจ่าย เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถในภาคเรียนที่จะถึงนี้

ดร.ศรีชัย กล่าวว่าโครงการหลักสูตรดังกล่าว เป็นการพัฒนานักศึกษา กศน.ให้เป็นผู้สำเร็จเป้าหมายชีวิตด้านการศึกษาต้องดำเนินการทางด้านกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาให้ครบทุกด้าน ดังนั้น หลักสูตรครั้งนี้แม้ชื่อเน้นบุคลิกภาพ แต่ข้างล่างของบุคลิกภาพของการเป็นนักศึกษากศน.ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ต้องพัฒนาทักษะ soft skill หรือทักษะด้านสังคมของนักศึกษาให้เป็นผู้ที่สามารดำรงชีวิตในสังคมทันสมัย ไอที และดิจิตอลได้ ขอให้เน้นย้ำในเรื่องของการเป็นผู้รู้จักทำงานช่วยเหลือพ่อแม่ นักศึกษากศน.ต้องมีบุคลิกภาพ หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อครอบครัว และสังคม รวมทั้งต้องมีทักษะความอดทน เพราะความอดทน ก่อให้เกิดเอาการเอางาน ตั้งใจมุ่งมั่น มีแรงใจในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จ และทำให้เกิดทักษะอื่นๆ ตามความถนัดของนักศึกษาแต่ละคนต่อไป ดังนั้น การจัดโครงการนี้จำเป็น และเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ อยู่ร่วมกันในกศน. ต้องมีการแลกเปลี่ยน มีความรู้สึกเป็นพี่น้อง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และอยู่ในฐานความรัก

"ตอนนี้มีผู้เรียนกศน. ประมาณ 1 ล้านคน และปีนี้มีผู้เข้าเรียนกศน.เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของผู้เรียนผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า18 ปี และประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบ เพราะแม้อัตราการเกิดลดลง แต่กศน.เน้นเปิดโอกาสให้แก่เด็กที่พลาดโอกาส ด้อยโอกาส รวมถึงมีนโยบายในการเคาะประตูบ้าน รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น และเปิดโลกอาชีพ ให้มีการทักษะอาชีพ ออนไลน์จำนวนมาก สร้างผู้สูงอายุให้มีทักษะอาชีพใหม่ ดังนั้น กศน.ทุกจังหวัดได้จัดโครงการทุกปี โดยรูปแบบจะเน้นตามฐานทรัพยากรที่จังหวัดมีอยู่ บางจังหวัดอาจเป็นกีฬา นวัตกรรม และอาชีพ ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะเป็นความร่วมมือกับสอศ. และกศน.จังหวัด เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะอาชีพต่างๆ เด็กสามารถที่จะตัดสินชะตาชีวิตได้ ว่าความถนัดอะไร ควรเรียนอะไรเพื่อให้เกิดการทำงานสร้างคุณภาพชีวิตได้จริง

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่าบุคลิกภาพ เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ การทำงาน และการดำเนินชีวิต ซึ่งกศน.จ.ปราจีนบุรี และวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี เห็นความสำคัญของพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐาน เพื่อเข้าสู่ภาคอาชีวศึกษา และการมีงานทำ จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐาน ทั้ง 7 อำเภอ จำนวน 440 คน ได้พัฒนาบุคลิกภาพฝึกฝน ฝึกปฏิบัติรายบุคคล พร้อมทั้งให้คำแนะนำ เพื่อการพัฒนาจากวิทยากรผู้ชำนาญการ ให้ผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐาน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีเอกลักษณ์น่าชื่นชม สามารถปรับปรุงบุคลิกภาพของตนให้พร้อมที่จะสร้างความประทับใจ รวมทั้งสามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ ให้ก้าวทันโลกที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและตอบสนองนโยบายหลักสูตรการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำของจังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้เรียนจะผ่านการเรียนรู้แบบฐานการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ จำนวน 7 ฐาน ดังนั้น ในนามของผู้จัดโครงการ ขอขอบพระคุณ รมช.ศธ.ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด โครงการค่ายอบรมพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐานสู่ภาคอาชีวศึกษา และการมีงานทำ และได้ให้โอวาทแก่ผู้เรียน กศน.ขั้นพื้นฐานและคณะครู วิทยากรที่ร่วมให้ความรู้ครั้งนี้ 

ต่อมาเวลา 9.30 น. ดร.กนกวรรณ ได้เดินทางไปเปิดโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงาน กศน.ในจังหวัดปราจีนบุรีและพื้นที่ภาคตะวันออก
วันที่ 18 – 20 สิงหาคม 2562 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง จ.ปราจีนบุรี พร้อมมอบเกียรติบัตร บันทึกภาพและเยี่ยมชมนิทรรศการและฐานการเรียนรู้ ซึ่งมีดร.ศรีชัย พรประชาธรรม เลขาธิการ กศน. ตัวแทนจากเครือข่ายการศึกษาต่างๆ ผู้เรียนกศน. และประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ

ดร.กนกวรรณ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ดีที่ทาง สำนักงานกศน.ได้เล็งเห็นความจำเป็นที่ต้องพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของ กศน. เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและประชาชนผู้รับบริการ การศึกษา กศน. เสริมสร้างองค์ความรู้และแนวทางการเข้าถึงการศึกษาของประชาชน เพื่อให้สามารถรองรับการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออกและมีแนวทางในการศึกษาหาความรู้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน อย่างมีคุณภาพ มีอาชีพที่มั่นคง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากผ่านการร่วมกิจกรรมตามโครงการในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้นำความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ดังนี้ ขอขอบคุณ ทุกท่าน ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ทำให้การจัดโครงการ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี


ดร.ศรีชัย กล่าวว่าในส่วนของโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงาน กศน.ในจังหวัดปราจีนบุรีและพื้นที่ภาคตะวันออกนั้น กศน. ได้ตระหนักถึงความสำคัญตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการสร้างและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ และกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเอเชีย จึงจัดโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงาน กศน.ในจังหวัดปราจีนบุรีและพื้นที่ภาคตะวันออกขึ้น โดยดำเนินงานการบูรณาการกับหน่วยงานทางการศึกษาทุกภาคส่วน รวมทั้งส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี นักเรียน นักศึกษา ประชาชน จำนวน 3,600 คน เข้ารับการอบรม 3 วัน ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม 2562 เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และแนวทางการเข้าถึงการศึกษาของประชาชน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการองค์ความรู้ จัดการศึกษาให้สามารถรองรับการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก มีแนวทางในการศึกษาหาความรู้ และเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน อย่างมีคุณภาพ