จีน-สหรัฐไม่จบ

จีน-สหรัฐไม่จบ

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงแรง ก่อนหยุดยาว 3 วัน พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง

ประกอบกับมีปัจจัยกดดันจาก MSCI จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย 0.08% ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกราว 5.5 พันลบ. นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิกว่า 2 พันลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,665.12 จุด (-4.32 จุด) Volume 6.3 หมื่นลบ. TFEX Net +3,949 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -629 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 43 เซนต์ +0.8% ปิด 54.93 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกอาจเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน และมีรายงานว่าบริษัทน้ำมันสหรัฐลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันติดต่อกัน 6 สัปดาห์

+ก.คลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติแพคเกจกระตุ้นศก.ชุดใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลังวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทภายในเดือนส.ค.นี้

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 4.5 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.845 บาท/US

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 389.73 จุด -1.48% เนื่องจากกังวลผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง

-จับตาจีนเตรียมใช้กำลังจัดการม็อบฮ่องกง หลังอ้างว่าม็อบใช้ความรุนแรงถึงขั้นก่อการร้าย

-โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐใน Q4/62 จากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงได้ก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐปีหน้า

-จีนกำหนดอัตราค่ากลางเงินหยวนวันนี้ที่ 7.0211 หยวน/ดอลลาร์ อ่อนค่ากว่าวันศุกร์

* จับตา EU เผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ สหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมและดัชนี CPI ก.ค. และการประชุมครม.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก จากความกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนจะยังยืดเยื้อต่อ และไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากเหตุประท้วงในฮ่องกงที่ลุกลาม คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,655 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30),หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดผลประกอบการ 2Q19 เติบโตดี (VL TACC SABINA NER), หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC),หุ้น High Dividend (SIRI QH TISCO KKP ANAN), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกงน.ลดดอกเบี้ย (SAWAD AEONTS SPALI SIRI JASIF DIF)

หุ้นรายงานพิเศษ

TMB-TCAP Analyst Meeting

  • เริ่มต้นที่การปรับโครงสร้างธุรกิจ TBANK ในการขายบริษัทลูกให้กับ TCAP หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ TBANK ยังผู้ถือหุ้นใน บลจ.กองทุนธนชาต (TFUND) 75% (อนาคตมีแผนขายให้บุคคลภายนอก) และบริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ (TBROKER) 100%
  • TMB จะระดมเงินทุนประมาณ 130,000 ล้านบาทเสนอซื้อ TBANK จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ราย (TCAP และ BNS) แบ่งเป็น 20% เสนอขายตราสารหนี้ 9,600-16,000 ล้านบาท อีก 80% แบ่งเป็น 1) 42,500 ล้านบาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB กำหนดราคาใช้สิทธิ TSR ที่ 1.35-1.6 บาทต่อหุ้น และ 2) 64,000 ล้านบาทเสนอขายให้แก่นักลงทุนใหม่ ที่ราคา 1.1 เท่าของราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี การออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตาม TSR (1.1*P/BV post-TSR) แบ่งเป็นขายบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 6,400 ล้านบาท และอีก 57,600 ล้านบาทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ TCAP และ BNS
  • TCAP จะเหลือเงินสดราว 10,000 ล้านบาท เป็นไปได้ว่านำไปใช้ขยายธุรกิจ หรือลงทุนธุรกิจใหม่ หรือจ่ายปันผลพิเศษ หรือซื้อหุ้นคืน
  • ราคาหุ้นเพิ่มทุนและสัดส่วนหุ้นยังไม่กำหนด ส่วนกระบวนการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 62 และการควบรวมกิจการสมบูรณ์ภายในปี 64

         ความเห็น การควบรวมกิจการทำให้มีธนาคารใหม่ขนาดสินทรัพย์ 1.9 ล้านล้านบาท ฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ระยะสั้น แนะนำถือ TMB จากโอกาสเติบโตของธนาคารใหม่ในระยะยาว แต่ระยะสั้นมีปัจจัยกดดันจาก dilution effect และ ซื้อเก็งกำไร TCAP 

ส่องหุ้น

     FSMART        แนวรับ 8.05 บาท                  แนวต้าน 8.35 , 8.70 บาท

     EPG              แนวรับ 6.65, 6.50 บาท          แนวต้าน 6.75 , 7.05 บาท

     BEM             แนวรับ 10.80-10.70 บาท        แนวต้าน 11.10-11.30 บาท

หุ้นมีข่าว   

  • TOP (ราคาปิด 75 Bloomberg Consensus 73.45) กำไร 2Q62 ที่ 566 ดีกว่าตลาดคาด 2% แต่ -87%QoQ และ –88%YoY โดยกำไรอ่อนตัวลงตามค่าการกลั่นและราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติส์อ่อนตัวลง อีกทั้งมีผลขาดทุนจากสต๊อก 887 ลบ. และสำรองผลประโยชน์พนักงาน 384 ลบ. อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติ 3Q62 จะฟื้นตัวจากไม่มีค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์พนักงาน และค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น แต่ธรุกิจอะโรแมติกส์ยังอ่อนตัวจากอุปทานจากจีนที่เพิ่มขึ้น
  • BANPU (ราคาปิด 90 Bloomberg Consensus 16.98) คำแนะนำ ชะลอลงทุน รายงานกำไร 2Q62 ที่ 86 ลบ. ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 86% และลดลง 91%QoQ และลดลง 98%YoY จากราคาถ่านหินปรับตัวลงกว่า 15% และเงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.3% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าลดลง 300 ลบ.จากโรงไฟฟ้าหงสาที่กำไรลดลงจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.2 พันล้านบาทจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
  • JUBILE (ราคาเหมาะสม 17 ซื้อ ราคาเหมาะสม 90) รายงานกำไร 2Q62 ที่ 66 ลบ.(ดีกว่าคาด 20%) +37%YoY และ +26%QoQ โดยรายได้เติบโต 15%QoQ สูงกว่าที่คาดไว้โดยได้แรงหนุนหลักจากจากยอดขายสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศและการจัดงาน mid-year sale ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 44% สูงกว่าคาดที่ 42% เนื่องจากยอดขายจากสาขาทั่วประเทศมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ายอดขายจากงาน mid-year sale
  • TU (ราคาปิด 18.30 บาท Bloomberg Consensus 30 บาท) ลั่นครึ่งปีหลังเดินหน้าออกสินค้าใหม่ มุ่งสร้างอัตรากำไรขั้นต้น เล็งปรับลดเป้ายอดขายปีนี้จากเดิมคาดโต 3-5% หลังเงินบาทแข็งค่า กางแผนสร้างโรงกลั่นน้ำมันปลาทูน่าใหม่ มูลค่า 24 ล้านเหรียญฯ คาดเปิดดำเนินงาน ก.ค.63 (ที่มา ข่าวหุ้น)
  • ILINK (ราคาปิด 10 บาท Bloomberg Consensus 5.90 บาท) เล็งประมูลงานเคเบิลใต้น้ำ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,955 ล้านบาท คาดเปิดประมูลสิ้น ส.ค.นี้ ย้ำเป้ารายได้ปี 62 โต 5,485 ล้านบาท ส่วนงบไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 45.65 ล้านบาท ลดลง 40.36% ฉุดครึ่งปีแรกกำไรสุทธิหด 35.39% เหลือ 94.57 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
  • HMPRO (ราคาปิด 40 บาท Bloomberg Consensus 18.91 บาท) ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังสดใส รับช่วงไฮซีซั่น-ลุ้นรัฐออกมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ลุยเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา ดันสิ้นปีนี้มีรวม 113 สาขา มั่นใจหนุนยอดขายทั้งปีโต 5-7% ตามแผน (ที่มา ข่าวหุ้น)
  • TPOLY เปิดเหตุเครื่องติดโกยงานก่อสร้างเพียบ ชี้โรงพยาบาลปลื้มดันงานกระฉูด แย้มกันยายน 2562 คว้าโปรเจ็กต์ใหม่อีก 2 โครงการ 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้รับงานเพิ่มอีก 6 พันล้านบาท โกยรายได้ 4 พันล้านบาท พร้อมแบ็กล็อกเหลือต่อปีหน้าอีก 8 พันล้าน เปิดเกมเดินหน้าลุยโรงไฟฟ้าชุมชนตามนโยบายรัฐมนตรีพลังงาน (ที่มา ทันหุ้น)
  • WHA (ราคาปิด 68 บาท Bloomberg Consensus 5.23 บาท) ออกโรงยันไตรมาส 3/2562 ผลงานโตต่อ จับตาเดือนกันยายนนี้ ลูกค้ายักษ์ใหญ่ต่างแดนซื้อที่ดินเพิ่ม จ่อสรุปพันธมิตรโลจิสติกส์ในเวียดนามมั่นใจยอดขายปี 2562 ในประเทศเข้าเป้า 1.4 พันไร่ และต่างประเทศอีก 200 ไร่ (ที่มา ทันหุ้น)
  • MITSIB โดดรับอานิสงส์ กนง.ลดดอกเบี้ย 25% กดต้นทุนทางการเงินลดฮวบ แย้มทิศทางครึ่งปีหลังโตต่อ ลุยปล่อยสินเชื่อดันผลงานสดใส ส่งซิกธุรกิจรีไฟแนนซ์บูมวอลุ่มพุ่งเท่าตัว ปักธงรายได้มาตามนัดโต 30-40% (ที่มา ทันหุ้น)
  • MCS ผลงานไตรมาส 2/2562 มีกำไร 42 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 67.11 ล้านบาท จากการส่งมอบงานต่างประเทศหนุน พร้อมปรับกลยุทธ์เจาะรับงานที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น เตรียมลุ้นบอร์ดพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงบครึ่งแรก 2562 ในไตรมาส 3/2562 (ที่มา ทันหุ้น)
  • TTW (ราคาปิด 13.70 บาท Bloomberg Consensus 48 บาท) ขายน้ำประปามาร์จิ้นดี เล็งรักษามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 40% คาดปริมาณขาย-รายได้ปี 2562 โต 2-3% ชี้ดีมานด์ยังมีต่อเนื่อง ส่งซิกศึกษาลงทุนธุรกิจน้ำประปาเพิ่ม พร้อมปีนี้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP เพิ่มหลังเตรียมจ่ายไฟฟ้าโครงการไซยะบุรีที่ลาว หนุนผลงานปี 2563 โตแรง แย้มกองทุนใน-นอกให้ความสนใจ มองธุรกิจเติบโตมั่นคง (ที่มา ทันหุ้น)