ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP 'พีพี ไพร์ม' หลังชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม

ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP  'พีพี ไพร์ม' หลังชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ PPPM รอบเช้า หลังบริษัทเปิดเผยสารสนเทศสำคัญครบถ้วนแล้ว และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลด้วยความรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM รอบเช้า หลังบริษัทเปิดเผยสารสนเทศสำคัญครบถ้วนแล้ว และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลด้วยความรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯขอเรียนว่าตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯว่าด้วยเรื่องการเปิดเผยสารสนเทศของบริษัทจดทะเบียนกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศที่จำเป็นเพื่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท โดยสารสนเทศดังกล่าวจะต้องถูกต้อง เพียงพอ และทันเวลา และตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทต้องมีความรับผิดชอบและมีกลไกในการกำกับดูแลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เปิดเผยต่อผู้ลงทุนเป็นไปตามข้อกำหนดข้างต้น ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯจึงขอให้คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดและหลักการดังกล่าวโดยเคร่งครัดด้วย

ด้านบริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM ชี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชำระหนี้หุ้นกู้ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่ตลท.ได้ให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังปรากฏตามรายละเอียดข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยฉบับลงวันที่ 5 สิงหาคม 2562 นั้น บริษัทใคร่ขอเรียนชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

1.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการชำระหนี้หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 260.50 ล้านบาท

1.1 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการชำระหนี้หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 216.80 ล้านบาท บริษัทขอเรียนว่าเหตุการณ์ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายทะเบียนหุ้นกู้ ได้โอนเงินและออกเช็คให้กับผู้ถือหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนไปบางส่วนในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 และจากการประชุมกับธนาคารในช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นการตัดเงินของธนาคารจากระบบด้วยความผิดพลาด ดังนั้นตามหนังสือที่อ้างถึงลำดับที่ 1 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 บริษัทได้เข้าใจโดยสำคัญผิดและแจ้งไปว่า “เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นายทะเบียนหุ้นได้ชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้” แต่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 จากหนังสือฉบับที่อ้างถึงลำดับที่ 2 ของนายทะเบียนหุ้นดังกล่าว บริษัททราบว่า “การชำระหนี้หุ้นกู้ลำดับที่ 1 จำนวน 260.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นายทะเบียนหุ้นกู้ได้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือหุ้นกู้ไปเป็นการตัดเงินของธนาคารจากระบบด้วยความผิดพลาดให้กับผู้ถือหุ้นกู้ไปเป็นเงินจำนวน 216.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังไม่ทันได้นำเงินฝากเข้าบัญชีเพื่อชำระหนี้ไถ่ถอนหุ้นกู้”

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ผู้บริหารของบริษัทและผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะนายทะเบียนหุ้นกู้ได้ประชุมร่วมกันแล้ว ทำให้บริษัททราบโดยชัดแจ้งแล้วว่า การโอนเงินเข้าบัญชีผู้ถือหุ้นกู้เป็นไปตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น ดังนั้น ในวันที่ 6 สิงหาคม 2562คณะกรรมการบริษัท จึงได้มีมติให้ดำเนินการชำระเงินคืนให้นายทะเบียนหุ้นกู้และบริษัทได้ดำเนินการคืนเงินด้วยวิธีการโอนเงินด้วยระบบบาทเนตเรียบร้อยแล้ว โดยเงินที่นำมาชำระดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุนซึ่งกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นเมื่อวันที่ 1-5 กรกฎาคม 2562 จำนวนประมาณ 250 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

1.2 ความคืบหน้าในการชำระหุ้นกู้ ทั้งจำนวน 216.80 ล้านบาท และจำนวน 43.70 ล้านบาทบริษัทขอเรียนชี้แจง ดังนี้1.2.1 เมื่อบริษัทได้ชำระเงินจำนวน 216.80 ล้านบาท คืนให้กับนายทะเบียนหุ้นกู้ตามข้อ 1.1 แล้ว ผู้ถือหุ้นกู้ที่ได้รับเงินเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ก็ไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวกลับเข้าบัญชีเพื่อนำส่งคืนให้กับนายทะเบียนหุ้นกู้อีก และถือว่าผู้ถือหุ้นกู้ที่ได้รับเงินไปเป็นการชำระหนี้หุ้นกู้ในครั้งที่ 1/2560 เรียบร้อยแล้ว

1.2.2 การชำระหนี้หุ้นกู้ จำนวน 43.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 บริษัทได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ถือหุ้นกู้ จำนวนรวม 40 ราย และจัดทำเป็นแคชเชียร์เช็คจำนวน 9 ราย ซึ่งปรากฏว่ามีตัวแทนของผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ได้ประสานงานว่า ผู้ถือหุ้นกู้จะมารับในวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ณ บริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่ง ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 9 รายได้รับแคชเชียร์เช็คไปครบถ้วนแล้วโดยเงินที่นำมาชำระดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุนและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและจากการประสานงานกับนายทะเบียนหุ้นกู้ปรากฏว่า มีผู้ถือหุ้นกู้ 3 ราย ที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้ไถ่ถอนหุ้นกู้ บริษัทจึงได้โอนเงินให้กับผู้ถือหุ้นทั้ง 3 รายโดยตรงแล้ว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ดังนั้นบริษัทขอสรุปว่าหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2560 (TLUXE197A) บริษัทได้ชำระหุ้นกู้ครบถ้วนแล้ว

2. จากประเด็นการชำระหนี้หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2560 ดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้2.1 ผลกระทบต่อแผนการชำระหนี้หุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2561 จ านวน 319.5 ล้านบาทเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 จากหนังสือฉบับที่อ้างถึงล าดับที่ 1 บริษัทได้เรียนแจ้งว่า หุ้นกู้ครั้งที่2/2561 (TLUXE198A) จำนวน 319.50 ล้านบาท ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 2 สิงหาคม 2562 บริษัทจะดำเนินการชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 โดยเงินที่มาชำระดังกล่าวจะมาจากการขายหลักทรัพย์เพื่อค้า, เงินทุนหมุนเวียนของกิจการและเงินจากการเพิ่มทุน แต่เนื่องจากบริษัทได้นำเงินจากการเพิ่มทุนไปชำระหุ้นกู้ตามข้อ 1.1 และบริษัทยังไม่สามารถขายหลักทรัพย์เพื่อค้าได้จึงเป็นผลทำให้บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ไถ่ถอนหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2561 จำนวน 319.5 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้นได้และด้วยผลจากการที่บริษัทมีเงินกู้ที่มีกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้คืนในหลายช่วงเวลารวมทั้งแผนการเพิ่มทุนที่บริษัทได้วางแผนไว้ไม่สำเร็จตามแผนทำให้การจัดการด้านการเงินของบริษัทในการชำระหนี้คืนดังกล่าวไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทำให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน และจากเหตุดังกล่าวคณะกรรมการบริษัทในการประชุมครั้งที่16/2562 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 จึงมีมติแจ้งเหตุการณ์การผิดนัดไม่ชำระหนี้หุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2561จำนวน 319.5 ล้านบาท และมีมติกำหนดให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา14.00 น. สถานที่จัดประชุมจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนวันที่19 สิงหาคม2562 เวลา 12.00 น.จนกว่าจะประชุมผู้ถือหุ้นกู้แล้วเสร็จ 

พร้อมระบุเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้จำนวนดังกล่าวข้างต้นไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้เงินในหุ้นกู้ตามที่กำหนดไว้ในตามข้อกำหนดสิทธิว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ของ หุ้นกู้ครั้งที่1/2561 (TLUXE205A), หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2561 (TLUXE199A) และหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2562 (PPPM213A)

นอกจากนี้เหตุดังกล่าวไม่กระทบผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งบริษัทยังดำเนินธุรกิจขายอาหารสัตว์และธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุหลักเนื่องจากการปรับโครงสร้างทางการเงินดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ธุรกิจของบริษัทเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและชำระหนี้คืนให้ตรงตามกำหนดระยะเวลาต่อไป โดยรายละเอียดเพิ่มเติมhttps://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=15652169759171&language=th&country=TH