‘อุตตม’ ชงมาตรการกระตุ้น ครม.ศก. เล็งอัดเงิน 1.7 แสนล.ช่วงปลายปี

‘อุตตม’ ชงมาตรการกระตุ้น ครม.ศก. เล็งอัดเงิน 1.7 แสนล.ช่วงปลายปี

"อุตตม" ชงมาตรการกระตุ้น ครม.ศก.นัดแรก 19 ส.ค.เล็งอัดเงิน 1.7 แสนล.ช่วงปลายปี

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.62 นายอุตตม สาวนายน โฟสต์เฟซบุ๊ก ดร.อุตตม สาวนายน ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ขอเรียนว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อยู่ระหว่างจัดทำคาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ และเสนอเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจพิจารณา โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะประชุมนัดแรกวันที่ 19 สิงหาคม 2562 นี้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังร่วมประชุมกับนาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงท้ายปีนี้ เพื่อเร่งการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาโดยเร็ว

“ท่านรองนายกฯ สมคิด มีความเป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากหลายปัจจัย ทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่รุนแรงขึ้น หวั่นจะกระทบต่อการส่งออกไทย นโยบายอ่อนค่าเงินหยวนของจีน กระแสเงินทุนไหลเข้า หลายปัจจัยส่งผลต่อค่าเงินบาทไทยแข็งค่า หลังจากการตั้ง ครม.ล่าช้ามานานจนกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน จึงเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 24 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนสูง เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงท้ายปีนี้และเร่งแก้อุปสรรครัฐวิสาหกิจในการเบิกจ่ายงบลงทุน โดยต้องการให้เม็ดเงินอีก 1.7 แสนล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี”

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมพร้อมจะช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคให้กับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคระหว่างกระทรวง หรือระหว่างหน่วยงาน และอื่น ๆ รวมถึงพร้อมสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจทำโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย อย่างเช่น การลงทุนท่อร้อยสายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในพื้นที่อีอีซีเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ของกลุ่มรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม คือ บมจ. กสท โทรคมนาคม, บมจ. ทีโอที และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย

นอกจากนี้ สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดทำแผนการติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้นและได้กำชับให้ สคร.ประสานกับรัฐวิสาหกิจ ดูว่ามีอะไรที่ติดขัด ต้องเร่งแก้ไขและลดอุปสรรคต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เราจำเป็นจะต้องช่วยกันเร่งรัดการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินไปข้างหน้าได้โดยเร็วที่สุด