ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อเก็งกำไร

ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อเก็งกำไร

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (2ส.ค.)ฟื้นตัวขึ้น จากคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ราคา 55.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทรุดตัวลงเกือบ 8% เมื่อวันพฤหัสบดี (1ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยข้อมูลการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ รวมทั้งการที่บริษัทน้ำมันลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยลดลง 8.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 3.9 ล้านบาร์เรล
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 6 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 770 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งเป็นการลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยขณะนั้นบริษัทน้ำมันลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันสัปดาห์ที่ 6
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวน 859 แท่น