‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.83 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.83 บาทต่อดอลลาร์

นักลงทุนระวังภาวะตลาดปิดควาาเสี่ยง รอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐและญี่ปุ่นในช่วงกลางสัปดาห์นี้ก่อน

นายจิติพล  พฤกษาเมธานันท์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.83 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ30.93 บาทต่อดอลลาร์

โดยในสัปดาห์นี้เชื่อว่านักลงทุนฝั่งเอเชียจะไม่รีบร้อนทั้งด้านซื้อหรือขายเนื่องจากมีทั้งการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและสหรัฐฯคั่นอยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ในระยะสั้นดอลลาร์จึงมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ตามทิศทางสกุลเงินฝั่งยุโรปที่ยังเผชิญกับปัญหาการเมือง 

นอกจากนี้นักลงทุนก็ควรระวังว่าตลาดอาจเข้าสู่ภาวะปิดรับความเสี่ยง(ดอลลาร์แข็งค่า) ถ้าเฟดไม่ลดดอกเบี้ยตามที่หวัง 

อย่างไรก็ดีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวสูงก็ยังคงมีอยู่ถ้าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์รายงานออกมาแย่กว่าคาดความหวังว่าเฟดจะ“ลด”ดอกเบี้ยมากขึ้นในปีนี้ก็จะมีมากขึ้นกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่ากลับลงได้ในท้ายสัปดาห์เช่นกัน 

มองกรอบเงินบาทวันนี้30.80-30.90 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้30.70-31.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับเศรษฐกิจทั่วโลกสัปดาห์มีเรื่องที่น่าสนใจมากมายเริ่มต้นในวันนี้คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Policy Balance Rate) ที่ระดับ-0.1% แม้กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดการผลิตอุตสาหกรรม(Industrial Production)ในเดือนมิถุนายนหดตัว2.0% จากเดือนก่อนชี้ว่าเศรษฐกิจในเอเชียยังน่ากังวล

ต่อมาในวันพุธมองว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติยุโรปจะรายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่2 ที่ระดับ1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้1.2% จากภาคการผลิตและการลงทุนที่ชะลอตัว

น่าสนใจที่สุดคือในวันพฤหัสมีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะ“ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Fed Fund Rate) 0.25% ลงมาที่ระดับ2.00-2.25% เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสหรัฐฯ

นอกจากนี้คาดว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ(ISM Manufacturing PMI) จะลดลงสู่ระดับ51.5 จุดพร้อมกันกับที่Markit จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีน(Caixin Manufacturing PMI) ในระดับ49.6 จุดจากยอดการส่งออกที่ซบเซา 

ในฝั่งไทยกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อของเดือนกรกฎาคมขยายตัวเพียง0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่ผ่านมาด้วยเงินเฟ้อพื้นฐานที่อยู่ในระดับตำ่เพียง0.5%

และท้ายในวันศุกร์คาดว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร(Non-farm Payrolls) เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น1.8 แสนรายส่งผลให้อัตราว่างงานสามารถทรงตัวได้ในระดับ3.7% ซึ่งถือว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งมาก