กรมทรัพย์สินฯ แจง 'ซอสศรีราชา' จดสิทธิบัตรไม่ได้ติดเป็นชื่อภูมิศาสตร์

กรมทรัพย์สินฯ แจง 'ซอสศรีราชา' จดสิทธิบัตรไม่ได้ติดเป็นชื่อภูมิศาสตร์

"กรมทรัพย์สินทางปัญญา" แจงดราม่า "ซอสศรีราชา" จดสิทธิบัตรไม่ได้ เหตุเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่คลิปว่า ตนเองได้เข้าไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เกต และพบว่า ซอสพริกศรีราชา แบรนด์คนไทย ขายในราคา 21 บาท เปรียบเทียบ แต่ชาวเวียดนามที่เอาศรีราชาไทย ไปจดลิขสิทธิ์ที่สหรัฐอเมริกา แล้วใช้ชื่อ "SRIRACHA" ไปทำจนรวยระดับพันล้าน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวยังเผยอีกว่า "ตอนนี้เอาของที่ขโมยของไทยไปกลับมาขายที่เมืองไทยในราคา 170 บาท เราต้องไม่ให้ฝรั่งเอาของเราไป เราเสียเปรียบเพราะเราไม่จดลิขสิทธิ์ เพราะเราทำแบรนด์ไม่เป็น ของเขาขายดีกว่าเราเกือบ 7 เท่า"

ต่อมา เฟซบุ๊ก "ตะละแม่บุษบง ผู้มากับความฉดฉวย" เผยคลิปที่หนุ่มรายหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของแบรนด์ศรีราชาได้โพสต์คลิปชี้แจงว่า ไม่ใช่ว่าไม่จด แต่ไปยื่นจดสิทธิบัตรกับกระทรวงพาณิชย์ ผ่านมา 7 ปี แล้วยังไม่ได้ แล้วจะไปสู้อะไรกับเขา พร้อมตำหนิการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาล จนทำให้เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. "กรมทรัพย์สินทางปัญญา" ได้ชี้แจงระบุว่า "ตามที่มีคลิปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับซอสพริกศรีราชาของไทยและที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจนทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการใช้ชื่อศรีราชานั้น" คำว่า "ศรีราชา" เป็นชื่ออำเภอในจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าของไทยและต่างประเทศ ไม่สามารถรับจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าและถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว แต่ผู้ประกอบการสามารถใช้คำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายการค้าได้ เช่น มีภาพ ชื่อหรือข้อความประกอบกับคำว่าศรีราชา

ซึ่งในประเทศไทยเอง มีผู้ประกอบการไทยนำคำว่า "ศรีราชา" ไปใช้กับซอสพริกที่ตนผลิตหลากหลายยี่ห้อและขายในราคาที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกาและในประเทศอื่นๆ ที่มีผู้ประกอบการนำคำว่า "Sriracha" ไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ทั้งซอสปรุงรส ขนมขบเคี้ยว และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น "กรณีดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของคำว่าศรีราชาและใช้ชื่อนี้แต่เพียงผู้เดียวได้"