'สมคิด' หวังได้รับความร่วมมือจาก 'รัฐสภา' ร่วมผลักดันทำงาน

'สมคิด' หวังได้รับความร่วมมือจาก 'รัฐสภา' ร่วมผลักดันทำงาน

“สมคิด” หวังได้รับความร่วมมือจาก “รัฐสภา” ร่วมผลักดันทำงาน ยันรัฐบาลไม่ได้โม้ หวังทำงานผลักดันแก้ปัญหา ยอมรับเสียใจ “ชาวนา” ฆ่าตัวตาย ด้าน “ชวน” บอกเหลือเวลาอภิปราย 15 ชม.

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยยืนยันว่ารัฐบาลพยายามช่วยเกษตรกรทั้งนี้ที่มีข่าวว่าชาวนาฆ่าตัวตายทุกคนเสียใจ แต่มีสัจธรรมข้อหนึ่งคือ สินค้าที่ผลิต ต่อให้ช่วยอย่างเต็มที่ แต่โครงสร้างทั้งระบบ คือ ปุ๋ย, ค่าใช้จ่าย, ราคา ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นจึงต้องใช้เทคโนโลยีและการตลาด เช่น อีคอมเมิร์ซ เข้าช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นส่วนช่วยเกษตรกรซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภค รวมถึงสนับสนุนค่าเดินทาง ทั้งนี้รัฐบาลที่ผ่านมาใช้นโยบายเพื่อสร้างการขับเคลื่อนให้เกษตรกรมีรายได้ ทุ่มเทเพื่อคนจน รวมถึงยกระดับราคาสินค้าเกษตรผ่านการแปรรูปด้วยระบบอุตสาหกรรม ขณะที่การแก้ปัญหาความยากจนที่ยั่งยืน คือสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ผ่านเทคโนโลยีและใช้ผู้นำที่กล้าเปลี่ยนแปลง อย่าง สมาร์ทฟาร์มเมอร์ เป็นต้น รวมถึงพยายามปฏิรูปงานด้านอื่นๆ เช่น พัฒนาการคมนาคมขนส่ง ด้วยรถไฟรางคู่เชื่อมโยงระหว่างเมือง พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) เพิ่มการลงทุนจากนักลงทุน เป็นต้น ท้ังนี้การอภิปรายของตนไม่ได้โม้ แต่ประวัติศาสตร์จะเป็นผู้ตัดสินว่าสิ่งที่ดีจะอยู่อย่างยั่งยืน

“จากนี้คือสิ่งที่ท้าทาย เพราะมีการย้ายการลงทุน ดังนั้นหวังรัฐบาลและรัฐสภาจะทำงานร่วมกัน หลายคนบอกว่าคนไม่แน่ใจรัฐบาลทำได้หรือไม่ แต่ผมเจอนักลงทุนทุกวัน เขาถามว่านโยบายเปลี่ยนหรือไม่ รัฐบาลผสมทำได้หรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นเมืองไทยมีรัฐบาลผสม ผมบอกขอให้มั่นใจ และขอให้ไว้ใจซึ่งกันและกัน ผมเป็นรองนายกฯ​ จะกำกับกระทรวงด้วยความโปร่งใส และเดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้จากนาทีนี้เป็นจุดพลิกผันสำคัญมาก หากผ่านพีเรียดนี้ได้ และช่วง 3-4 ปีสามารถร่วมมือกันได้ จะไปด้วยกันได้” นายสมคิด ชี้แจง

รองนายกฯ ชี้แจงด้วยว่า ปัจจุบันตนอายุ 67 ปี ไม่ได้อยากอยู่ต่อ แต่ถือเป็นโอกาสที่จะรับใช้ประเทศ หากมีโอกาสทำงานเพื่อบ้านเมือง โดยตนเชื่อว่าการทำงานจะร่วมมือไปด้วยกันได้​ ทั้งนี้ตนดีใจและภูมิใจที่เห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ซึ่งตนต้องการให้เข้ามาทำงานร่วมกัน ตนเข้ามาทำงานไม่ใช่เพื่อแสวงหาต่อต้องการทำงาน โดยตนเข้าสู่วงการการเมืองในวัย 43 ปี เพื่อต้องการเข้ามาทำงาน และทำงานให้ประเทศไม่เละเทะ ไม่เช่นนั้นคนรุ่นใหม่จะไม่กล้าเข้ามา​

จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ฐานะประธานที่ประชุม ชี้แจงเวลาด้วยว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เหลือเวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง อภิปรายแล้ว 6 คนจากที่เสนอชื่อ 16 คน ส.ว. อภิปรายแล้ว 4 คนจากที่เสนอชื่อ 19 คน ขณะที่รัฐบาลเหลือเวลา3 ชั่วโมง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเหลือเวลา 3 ชั่วโมง 32 นาที และส.ส.พรรคฝ่ายค้านเหลือเวลา 9 ชั่วโมง ซึ่งตนขอให้สมาชิกรัฐสภายึดข้อบังคับและปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมเป็นหลักเพื่อให้มีเวลาที่สมาชิกที่เข้าชื่ออภิปรายได้โอกาสอภิปราย.