ตม.ติวเข้มผู้ประกอบการ สร้างความรู้กฎหมายคนเข้าเมือง

ตม.ติวเข้มผู้ประกอบการ สร้างความรู้กฎหมายคนเข้าเมือง

รรท.ผบช.สตม. ติวเข้มผู้ประกอบการ สร้างความรู้กฎหมายคนเข้าเมือง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ห้องบุณยะจินดาสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. ประธานในพิธี โดยมี พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบช.ภ. 7 ปฏิบัติราชการ สตม. และพล.ต.ต.ปฏิพัทธ์สุบรรณ ณ อยุธยาผบก. ตม. 1 ร่วมเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามมาตรา 38 แห่งพ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและชี้แจงขั้นตอนแนวทางปฏิบัติในการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 38 แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522 โดยมีผู้ประกอบการโรงแรม สถานศึกษา สมาคมมูลนิธิ บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่มีคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยหรืออยู่ในความรับผิดชอบ เข้ารับการอบรมสัมมนาจำนวน 400 คน

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวการค้าการลงทุนและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยมากขึ้นมีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่าที่พักอาศัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เล็งเห็นความสำคัญในการควบคุมกำกับดูแลคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตลอดจนเพื่อแสวงหาความร่วมมือให้ความรู้และทำความเข้าใจกับผู้เข้ารับการอบรมสัมมนาเกี่ยวกับมาตรการควบคุมคนต่างด้าว ด้านการรับแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวที่บัญญัติไว้ว่า เจ้าบ้านเจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถานหรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวจะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้านเคหสถานหรือ โรงแรมนั้นตั้งอยู่ และหากผู้ใดไม่ดำเนินการจะมีความผิดตามมาตรา 77 แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ไปด้วย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า การจัดอบรมในครั้งนี้เพื่อชี้แจงขั้นตอนวิธีการปฏิบัติแก่เจ้าบ้านเจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถานหรือผู้จัดการโรงแรม กรณีรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัยจะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่คนต่างด้าวผู้นั้นเข้าพักอาศัยหากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมายต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าผู้นั้นเป็นผู้จัดการโรงแรมต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท เรื่องการแจ้งที่พักของคนต่างด้าวหรือต่างชาติที่เข้ามาในไทยนั้น เป็นเรื่องที่มีข้อบังคับให้ทำกันมาตั้งนานแล้วโดยส่วนใหญ่ชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวมักจะพักที่โรงแรม หรือเกสต์เฮาส์นั้น ทางเจ้าของโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์จะต้องแจ้งตามหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีสามีญาติเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติแล้วมาพักที่บ้านก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งบางคนอาจยังไม่ทราบข้อกฎหมายนี้จึงต้องฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน

โดยในปัจจุบันสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้พัฒนาระบบแอพพลิเคชั่นการแจ้งที่พักอาศัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าบ้านเจ้าของและผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินการแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวได้โดยง่ายสะดวกรวดเร็วอีกทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้การรับแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวดังกล่าวเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมคนต่างด้าวเพื่อให้สามารถควบคุมดูแลและติดตามตัวคนต่างชาติขณะพำนักอยู่ในประเทศไทยได้เป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติรักษาความปลอดภัยของประชาชนและความสงบเรียบร้อยของสังคมเพื่อให้ประเทศไทยมั่นคงและปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาล