กม.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ลดคดีสู่ศาล

กม.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ลดคดีสู่ศาล

ยธ.เผยหลังประกาศใช้กม.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯส่งผลคดีขึ้นสู่ศาลน้อยลง-ระงับข้อพิพาททางแพ่ง ช่วยประชาชนเข้าถึงยุติธรรมทางเลือก

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวเปิดการประชุมเรื่อง “ประตูสู่ความสมานฉันท์ ร่วมใจกันไกล่เกลี่ย” ว่า หลังพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายกลางที่ให้หน่วยงานของรัฐหรือศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ใช้เป็นเครื่องมือในการยุติระงับข้อพิพาททางแพ่ง ที่มีทุนทรัพย์ไม่มากนัก รวมทั้งข้อพิพาททางอาญาบางประเภท โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณีเป็นสำคัญ ทำให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลดน้อยลง ลดปัญหาความขัดแย้งลดงบประมาณแผ่นดิน เสริมสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข และส่งเสริมระบบยุติธรรมทางเลือก และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากข้อพิพาทสามารถยุติได้ด้วยดี แทนการฟ้องร้องคดีต่อศาล ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมที่เน้นการสร้างหลักประกันในการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

นายวิศิษฎ์ กล่าวอีกว่า การเปิดโอกาสให้คู่กรณีได้ใช้พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ จะทำให้ข้อตกลงของคู่กรณีมีสภาพบังคับตามกฎหมายที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พนักงานสอบสวน และภาคประชาชน สามารถอำนวยยุติธรรมให้ประชาชนได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร เกิดความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม มีโอกาสเจรจาตกลงกันระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีและปราศจากการวินิจฉัย ส่งผลให้ประชาชนทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงความยุติธรรม เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม และเกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป