ศก.จีนโตต่ำสุดฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง

ศก.จีนโตต่ำสุดฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง

ตลาดกังวลว่าความต้องการน้ำมันจะปรับตัวลดลงหลังจีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักลงทุน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปปิดตลาดวันจันทร์ (15ก.ค)ปรับตัวลง หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่าจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกืจในไตรมาสที่สอง สิ้นสุดเดือนมิ.ย. แค่6.2% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2552 หลังเกิดวิกฤติการเงินทั่วโลก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์  ปรับตัวลง 63 เซนต์ หรือ 1.1%  ปิดที่ราคา 59.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 29 เซนต์ ปิดที่ราคา 66.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน(เอ็นบีเอส) ระบุว่า จีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สอง สิ้นสุดเดือนมิ.ย. แค่6.2% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2552 หลังเกิดวิกฤติการเงินทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ จีนพยายามเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐ และให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเกรงการลดการจ้างงาน แต่ก็ต้องมาเผชิญกับสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยการส่งออกจากจีนไปสหรัฐตกลงถึง 7.8% หลังจากสหรัฐขึ้นภาษี การค้าปลีกเติบโตเพียง 8.4% การผลิตของโรงงาน เติบโตแค่ 6 %ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ขยายตัวแค่ 7.8%