อินเดียฝันเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโลก

อินเดียฝันเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโลก

อินเดียส่งสัญญาณเอาจริงลุยตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สัปดาห์ก่อนรัฐบาลเสนอแรงจูงใจทางการเงินเพื่อกระตุ้นความต้องการ พร้อมผ่อนคลายกฎระเบียบหลายประการ หวังดันประเทศเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโลก

เมื่อวันศุกร์ (4 ก.ค.) ที่ผ่านมา นีร์มาลา สิธารามัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดีย เพิ่งเสนองบประมาณอินเดียฉบับใหม่ ระบุ รัฐบาลเตรียมลดภาษีเงินได้เพิ่มเติม 150,000 รูปี ให้กับผู้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดระยะเวลากู้ยืมผู้ซื้อจะได้ประโยชน์รวมราว 250,000 รูปี

ปุณีต คุปตะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายคาดการณ์ตลาดรถยนต์ บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต เผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่ารัฐบาลกำลังพยายามสร้างดีมานด์ และกระตุ้นดีมานด์ ซึ่งจะช่วยเหลือผู้ผลิตได้หลังจากโอดครวญมานานว่า ความต้องการมีไม่มากพอจึงไม่สามารถผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากขึ้นได้

“ผมคิดว่าหากจะเริ่มต้องเริ่มที่ดีมานด์ก่อน ตอนนี้เลย เพราะแต่ละปียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามีไม่ถึง 2,000 คัน” นักวิเคราะห์กล่าวและว่า ปัจจุบันอินเดียมีรถขนาดเล็ก ทั้งรถยนต์ รถเอสยูวี และรถบรรทุกเล็กราว 4 ล้านคน รถไฟฟ้าไม่ได้ตั้งเป้าขายในตลาดใหญ่ แค่ขายเฉพาะลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น

นอกจากนี้  รัฐบาลยังลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถยนต์เชื้อเพลิงสันดาป เช่น รถเอสยูวีที่ใช้น้ำมันต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (จีเอสที) 28%และเก็บภาษีเพิ่มเติมอีกราว 20%

รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเดิมทีเก็บภาษีจีเอสที 12% ราคาขายเฉลี่ยในอินเดียอยู่ที่ 1.3 ล้านรูปีต่อคัน รัฐบาลตั้งใจะลดภาษีลงเหลือ 5%

การที่รัฐบาลนิวเดลีตั้งใจผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ส่วนหนึี่งเป็นเพราะต้องการลดมลพิษในเมืองใหญ่ของประเทศที่ทะลุถึงระดับอันตราย อีกทั้งลดการพึ่งพาน้ำมันโดยอินเดียถือเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันสุทธิ จึงต้องเสียเงินไปกับการนำเข้าจำนวนมหาศาล ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในช่วงขาขึ้น

ถ้ามองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขยายตัว มีประเทศอย่างจีน สหรัฐ และบางประเทศในสหภาพยุโรปเป็นหัวหอก

รายงานฉบับหนึ่งของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เผยแพร่เมื่อเดือน พ.ค. ระบุว่าเมื่อปี 2561 รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุหลัก 5.1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านคันจากปี 2560 ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจีนยังคงเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่สุดของโลก และคาดว่าจีนจะครองส่วนแบ่งตลาดยนต์ไฟฟ้าถึง 57% ภายในปี 2573

ในส่วนของอินเดียนั้นคงต้องรออีกนานกว่ารถประเภทนี้จะครองตลาดในประเทศได้

นักวิเคราะห์รายเดิมคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 รถยนต์ไฟฟ้าจะครองสัดส่วน 4% ในตลาดรถยนต์อินเดีย ถ้าคิดเป็นจำนวนก็เกือบ 400,000 คัน

แต่อินเดียยังต้องเจออุปสรรคอีกมากให้ต้องฟันฝ่า เช่น สร้างสถานีชาร์จ ปรับปรุงเทคโนโลยี สิ่งที่รัฐบาลทำไปแล้วคือทำโครงการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้า เฟส 2 ที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 1 แสนล้านรูปี ระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้แรงจูงใจแก่ผู้ซื้อ รวมถึงสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น

“เราไม่ได้กำลังพูดถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ 20% 30% หรือ 50% ตอนนี้แค่พูดถึงการเริ่มต้นให้ตลาดมีสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าอยู่บ้างเท่านั้น และถ้าชาวอินเดียตกลงใจเมื่อไหร่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก” นักวิเคราะห์กล่าวอย่างเชื่อมั่น