หุ้นไทยวันนี้ไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น

หุ้นไทยวันนี้ไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น

บล.กรุงศรี คาด SET Index แกว่งตัว 1,715 – 1,730 จุด เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น แม้ว่าทิศทาง Fund Flow ยังคงเป็นบวก หลัง Fed มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม 30–31 ก.ค.นี้ แต่ถูกกดดันจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังมีความไม่แน่นอน

บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ (4 ก.ค.) SET Index ทรุดตัวลงแรงปิด -14.14 จุด (-0.81%) ที่ระดับ 1,724 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน และมีแรงขายตามสัญญาณเทคนิคภาวะ Overbought รวมถึงความกังวลข่าวผู้ตรวจการแผ่นดินให้ทบทวนแผนการซื้อไฟฟ้า (PDP) ปี61 ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ภาครัฐมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า 51% ส่งผลให้มีแรงขายกลุ่ม ENERG และ PETRO กดดันดัชนี ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งซื้อสุทธิ 1,600 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,453 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 6,534 สัญญา

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (5 ก.ค.) มีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัว 1,715–1,730 จุด เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าทิศทาง Fund Flow ต่างชาติจะยังคงเป็นบวกหลัง Fed มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 30–31 ก.ค.

อย่างไรก็ตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังมีความไม่แน่นอนหลังมุมมองจีนกับสหรัฐขัดแย้งกัน โดยจีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกการจัดเก็บภาษีทั้งหมด ส่วนทางสหรัฐมองว่าข้อตกลงการค้าควรจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ

นอกจากนี้แรงขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นกลุ่มที่ดีดตัวขึ้นมาก เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มที่คาดว่าผลประกอบ 2Q19 จะชะลอตัว เช่น อิเล็กทรอนิคส์ และปิโตรเคมี จะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีผันผวนสูง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q19 จะเติบโตขึ้น (PTTEP, EA, BGRIM, GPSC, CKP ,CPF, GFPT, TFG, CPALL, MTC, THANI, VGI, PLANB, MINT, VNT, WORK, MAJOR)กลุ่มขนส่งทางเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่องล่าสุด 1,700 จุด

หุ้นแนะนำวันนี้: CPF (ปิด 29.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus สูงสุด 34) ราคาหมูและราคาไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 36 เดือน และ 21 เดือนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เรามอง Cycle ขาขึ้นรอบนี้จะยาวนานกว่าในอดีต เนื่องจากได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของโรคอะหิวาต์แอฟริกาในจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลกำไรกลุ่มธุรกิจเกษตรใน 2Q19 และจะโตต่อเนื่องใน 3Q19

เนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ เรายังเลือก CPF เป็น Top pick ของกลุ่ม, GPSC (ปิด 69.25 ซื้อ เป้า 80 บาท) มองข่าว สตง.เสนอให้กระทรวงพลังงานทบทวนแผน PDP2018 ใหม่ไม่กระทบ GPSC เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ส่งขายให้บริษัทในกลุ่ม PTT เป็นหลัก ส่วน Growth story ในอนาคตมุ่งเน้นลงทุนในต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าไทยถึง 2 เท่า กำไรสุทธิปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาทจากการรวมงบกับ GLOW ทำให้ EPS น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาทต่อหุ้น กดดัน PE ลดลงต่ำกว่า 20 เท่า