แพทย์แนะดูแลสุขภาพลูกน้อยห่างไกลจากไข้หวัด

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมจะเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือเด็กก่อนวัยเรียน ควรระมัดระวังสุขภาพเป็นพิเศษเพราะถ้าเด็กโดนละอองฝนหรือตากฝนโดยไม่ป้องกัน อาจทำให้เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะ “ไข้หวัด” ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน และมีโอกาสเป็นได้ในทุกฤดูเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย จึงมักทำให้เกิดอาการหวัดได้ง่ายๆ เด็กที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงพอสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา และเตรียมรับมือเพื่อป้องกัน พ่อแม่ ผู้ปกครองควรใส่ใจในเรื่องนี้ เพราะหากเด็กป่วยเป็นไข้หวัดและดูแลสุขภาพไม่ดี อาจส่งผลให้หลอดลมอักเสบและเป็นโรคปอดบวมได้ในที่สุด ดังนั้นจึงควรทำให้ร่างกายอบอุ่นเสมอ เพราะเด็กเล็กป้องกันหรือช่วยเหลือตนเองไม่ได้ พ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ประวิทย์ เจตนชัย กุมารแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า วิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัด ได้แก่ 1.เตรียมร่มหรือเสื้อกันฝน ติดตัวถ้าจำเป็นต้องพาเด็กไปนอกบ้าน และถ้าเปียกฝนหรือถูกละอองฝน เมื่อกลับเข้าบ้านต้องรีบเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันทีเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย 2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น สับปะรด เป็นต้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย 3. เด็กทารกควรให้กินนมแม่ ทำให้เด็กได้รับภูมิต้านทานโรค ส่วนเด็กโตควรรับประทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย 4.ควรให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย 5.พักผ่อนให้เพียงพอ หากฝนตกหลีกเลี่ยงการนอนใกล้หน้าต่างเพราะอาจถูกละอองฝน และใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น 6.ให้เด็กหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เป็นหวัด โดยสอนลูกให้ป้องกันการไอหรือจามด้วยวิธีการปิดปาก หรือใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเด็กที่อยู่รวมกันในศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาลจะสัมผัสเชื้อหวัดจากเด็กอื่นๆได้ง่ายกว่าเด็กที่ดูแลเองภายในบ้าน ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่สามารถปฏิบัติได้ตามข้อแนะนำ จะช่วยให้ลูกหลานมีสุขภาพดีห่างไกลจากไข้หวัดในช่วงหน้าฝนได้