บวกต่อ

บวกต่อ

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรงสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

โดยวานนี้ซื้อถึง +5,826 ลบ. และมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 6.5 หมื่นลบ. โดยกลุ่ม Big cap. ที่หนุนตลาด ได้แก่ CPALL AOT และ BDMS ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,637.69 จุด (+17.47 จุด) Volume 6.5 หมื่นลบ. จาก Foreign +5,826.05 ลบ. TFEX Net +29,205 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +5,522 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ +512.40 จุด +2.06% ขานรับประธานเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปหลังมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่แล้ว

+ราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัว +23 เซนต์ ปิด $53.48 ต่อบาร์เรล จากการช้อนซื้อหลังราคาน้ำมันดิ่งลงแรงและเร็วเกินไป และประธานเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย

+การเมืองในประเทศมีความคืบหน้าเชิงบวกจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคเพื่อไทยมีมติไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ

+พาณิชย์ เผย CPI เดือน เม.ย. +1.23% Core CPI +0.61% ช่วง 4M62 CPI +0.86%  Core CPI +0.62% บ่งชี้เงินเฟ้อไม่พุ่งแรงไม่กดดันกนง.ขึ้นดอกเบี้ย

-ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐเดือนเม.ย.ดิ่งต่ำสุดรอบเกือบ 2 ปี แตะระดับ 55.5 สวนทางคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น สอดคล้องกับการรายงานของมาร์กิต

-สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนเม.ย. -0.8% จากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน รถยนต์ คอมพิวเตอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

-เวิลด์แบงก์หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 62 เหลือ 2.6% -0.3% จากผลกระทบข้อพิพาทการค้า  ภาวะตึงตัวด้านการเงินทั่วโลก และศก.ประเทศขนาดใหญ่ชะลอตัว

-อังกฤษเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. -2.7% ทรุดลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 2538

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -210 ลบ. ค่าเงินบาท 31.31 บาท/US

*จับตาวันนี้ (5 มิ.ย.) ประชุมรัฐสภาโหวดเลือกนายกฯ

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มสดใสเดินหน้าต่อตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ  ราคาน้ำมันและปัจจัยการเมืองในประเทศที่เห็นความคืบหน้าในการมีรัฐบาลใหม่  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ดัชนี FTSE All-World หุ้นเข้า : OSP ดัชนี FTSE Small Cap หุ้นเข้า : TQM, NER, PR9 มีผล 21 มิ.ย.
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, SPA)กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)
  • หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play : AMATA, WHA, WHART, EASTW, ATP30, ORI

หุ้นรายงานพิเศษ

VL (ราคาปิด 1.52 “ไม่จัดอันดับคำแนะนำ” ราคาเหมาะสม 2.58)

**บล.โกลเบล็กเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

  • เตรียมจ่ายหนี้แบงก์ 50-60 ล้านบาทในไตรมาส 2/62 คาดฉุด D/E ลดเหลือไม่เกิน 1.5 เท่าจากเดิม 2.7 เท่า ส่งผลเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเดินหน้าลงทุนขยายกองเรือปีละ 1 ลำ หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่องในอนาคต พร้อมเดินหน้าซื้อเรือเพิ่ม 2 ลำตามแผนจากปัจจุบันที่ 13 ลำ แย้มทิศทางไตรมาส 2/2562 โตต่อ เตรียมรับรู้รายได้จากเรือลำใหม่ VL21 แถมมาร์จิ้นพุ่งสูงขึ้นหลังควบคุมบริหารต้นทุนดีขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น-ทันหุ้น)

    •  ความเห็น การชำระคืนหนี้และลงทุนซื้อเรือเพิ่มเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเสริมฐานะแข็งแกร่งและผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง  ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2562 จะพลิกเติบโตราว 46% เป็นราว 90 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วน D/E ฝ่ายวิจัยคาดจะลดจาก 2.7 เท่า ณ ปลาย 1Q62 เหลือ 1.37 เท่า ณ ปลายปี 62

หุ้นมีข่าว   

·         FPT ทุ่ม 1.98 หมื่นล้านบาท ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ GOLD ในราคาหุ้นละ 8.50 บาท ระหว่างวันที่ 5 มิ.ย.-8 ส.ค.62 หาก UV ตอบรับขาย GOLD จำนวน 912.83 ล้านหุ้น คาดฟันกำไร 2.7 พันล้านบาท เหตุมีต้นทุนซื้อ GOLD หุ้นละ 5.50 บาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         MC (ราคาปิด 7.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 9.63) วางเป้างวดปี 62/63 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% ลุยคลอดสินค้าใหม่หนุนยอดขาย เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 50 แห่ง เตรียมรุกตลาดมาเลเซียวางเป้า 1 ปี มี 2 จุดขาย (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         MACO (ราคาปิด 1.54 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 2.20)  ส่งบริษัทย่อยทุ่มงบ 160 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น "โคแมส" เพิ่มอีก 30% ดันสัดส่วนการถือหุ้นครบ 100% คาดแล้วเสร็จ มิ.ย.นี้ หนุนส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม พร้อมอนุมัติ VGM ซื้อหุ้น PBSB เพิ่ม 40% ดันสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 65% คาดแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         DDD  (ราคาปิด 22.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 23.90) ซุ่มเจรจาซื้อกิจการเฮลท์แคร์ จ่อปิดดีลปีนี้ 1 ราย มูลค่าลงทุน 100-1,000 ล้านบาท ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังเติบโต เหตุได้สินค้าใหม่หนุน เตรียมสรุปตัวแทนจำหน่ายในจีน 1 รายในช่วงครึ่งปีหลัง หวังกระจายสินค้าให้ครอบคลุม (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         KTC (ราคาปิด 40.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 39.22) มองภาพรวมไตรมาส 2/62 โตต่อ พร้อมคงเป้าการเติบโตทั้งปียังสดใสต่อเนื่อง เร่งคุม NPL ต่ำ 1.1% ด้านสินเชื่อนาโน-พิโก คาดได้ใบอนุญาตภายในมิถุนายน 2562 นี้ และเริ่มปล่อยได้ต้นไตรมาส 3/62 เป็นต้น คาดปี 2564 เห็นกำไรจากธุรกิจใหม่(ที่มา : ทันหุ้น)

·         TITLE ประเดิมซื้อหุ้นคืน ล็อตแรก 120,000 หุ้น เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคา 4.58 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น เพิ่ม ROE และ EPS ลั่นผลงานปีนี้จ่อทะลุ 1 พันล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (ที่มา : ทันหุ้น)

·         FPI จ้องซดออเดอร์ OEM เพิ่มจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 250-300 ล้านบาท หลังกวาดงาน TOYOTA ได้แล้วกว่า 160 ล้านบาท อวดแบ็กล็อกเต็มมือ 900 ล้านบาท เตรียมบุ๊กลงพอร์ตปีนี้ 450 ล้านบาท ใส่เกียร์เพิ่มเครื่องจักร ผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงทำเงิน ปั๊มยอดขายมาตามนัดโต 10% พร้อมลุยขยายฐาน สหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย (ที่มา : ทันหุ้น)

·         AMATA (ราคาปิด 22.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 25.57)  เฮ! รัฐบาลชัดเชื่อหนุนการลงทุน EEC ต่อเนื่อง ขณะที่ดีมานด์ที่ดินเติบโตแรงนักลงทุนจีนย้ายฐานเข้าไทย รับเจรจาขายที่ดิน 600-800 ไร่ เผยไตรมาส 2 โอนที่ดินเพิ่มขึ้น งานในมือเพียบ 3.7 พันล้านบาท คงเป้าทั้งยอดขายที่ 1,075 ไร่ (ที่มา : ทันหุ้น)

·         LIT (ราคาปิด 5.45 ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.40)  ผู้บริหารเปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่องตามความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นหลังบริษัทมุ่งเน้นพัฒนาสินเชื่อใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย อย่าง กลุ่ม SMEs ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจผลงานจะเติบโตทำนิวไฮตั้งเข้าตลาด mai โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-20% และมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท ส่วนการแก้ปัญหา NPL ได้จัดตั้งบริษัทย่อย"บจ. ลิท เซอร์วิส แมเนจเม้นท์" เพื่อแยกธุรกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อให้สามารถวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อได้อย่างอิสระ (ที่มา มิติหุ้น)

·         ตลท. แจ้งย้ายการซื้อขายของหุ้นบมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) จากกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค พร้อมกันนี้ยังได้ย้ายการซื้อขายของหุ้นบมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) จากกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ มาอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.62