เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนราบรื่นหนุนหุ้นวอลสตรีทดีดตัวขึ้น

เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนราบรื่นหนุนหุ้นวอลสตรีทดีดตัวขึ้น

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (10พ.ค.)ดีดตัวสู่แดนบวก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนสิ้นสุดลงแล้วและการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 114.01 จุดหรือ 0.44% ปิดที่ 25,942.37 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.68 จุดหรือ 0.37% ปิดที่ 2,881.4  จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 6.35 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 7,916.94 จุด

นักลงทุนยังคงมีความหวังว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ในที่สุด และสงครามภาษีระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ นายมนูชิน และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ต่างจับมือกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่เดินทางออกจากสำนักงานยูเอสทีอาร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงถึง 358 จุด หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน เนื่องจากขณะนี้สหรัฐกำลังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน และรายได้ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น

ทั้งนี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าเมื่อวานนี้

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีซีพีไอได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน, ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ