SF - ซื้อ

SF - ซื้อ

Pure Domestic Play

SF และเป็นบริษัทที่มีคุณภาพของกำไรสูง เพราะกำไรนั้นมาจากการเก็บค่าเช่าซึ่งเป็นรายได้ต่อเนื่อง และโครงการของบริษัทอยู่ในทำเลที่ดีจึงทำให้กำไรมีความมั่นคงสูง(Earnings resilient) นอกจากนี้บริษัทมีธุรกิจทั้งหมดที่อิงกับการบริโภคในประเทศ (Pure Domestic Play) จึงไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ สุดท้ายเรามองว่า Downside ต่อราคาหุ้นจำกัด เพราะ Valuation ที่ไม่แพง (PE 12 เท่า) ในขณะที่มี Upside จากจากพัฒนา Mixed-use ร่วมกับพันธมิตร เราแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคา เป้าหมายพื้นฐาน 7.70 บาท (อิง PE 15 เท่า)

1Q19: สรุปผลประกอบการ – กำไรดีตามคาด

SF รายงานกำไรสุทธิ 1Q19 ที่ 267 ล้านบาท โดยกำไรหลักอยู่ที่ 273 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%YoY และ 9%QoQ) ผลประกอบการเป็นไปตามคาดบริษัทมีรายได้ 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%YoY และ 7%QoQ; เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ Market Place นางลิ้นจี่ เฟส 2 (ขนาด 4,500 ตร.ม.) ที่เปิดในช่วง 4Q18 ที่ผ่านมา นอกจากนี้การเติบโต YoY อีกส่วนหนึ่งมาจากโครงการ Market Place นางลิ้นจี่ เฟส 1 ที่เปิดครบ 1 ปี ซึ่งเริ่มเห็น Traffic และค่าเช่าที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนแบ่งกำไรหลักจากกิจการร่วมค้าซึ่งหลักๆมาจาก Mega bangna อยู่ที่ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 11%YoY และเพิ่มขึ้นแรง 83%QoQ เพราะ4Q18 Mega Bangna มีค่าใช้จ่ายสร้างสะพานกลับรถซึ่งถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว

2Q19: จะเห็นรายได้เพิ่มขึ้นจาก 2 โครงการใหม่

เราคาด 2Q19 จะเห็นผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 1) การรับรู้การเปิด Market Place Dusit (6,500 ตร.ม.) อย่างเต็มไตรมาสหลังจากที่เปิดโครงการอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา 2) Mega Bangna โซน Edutainment (HabourLand) (8,500 ตร.ม.) ซึ่งเปิดไปเมื่อ 2 เม.ย. จากการสำรวจผลตอบรับผู้บริโภค พบว่า HabourLand ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด และจะเป็นจุดดึงดูด traffic ที่ดีให้กับ Mega Bangna และ 3) One-time Surprise จากส่วนแบ่งรายได้จาก MAJOR ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จาก Avenger: Endgame ที่สร้างรายได้ดีกว่าคาด

2H19: กับโครงการที่น่าจับตา

ประเด็นที่ต้องติดตามใน 2H19 คือการเริ่มก่อสร้าง (Ground breaking) โครงการ Mixed-use ทองหล่อ ซ.4 ที่ปรับโฉมจาก Market Place เดิม ซึ่งเป็นแผนตั้งแต่ต้นปีของบริษัท SF ได้สัญญาเช่าที่ดิน 32 ปี เป็นประมาณ 25,000 ตร.ม. ประกอบด้วย พื้นที่ Retail 15,000 ตร.ม. และ Office อีก 10,000 ตร.ม. ซึ่งโครงการนี้จะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี (ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการขอ EIA) โดยโครงการนี้ใช้งบลงทุนก่อสร้างราว 1.0 พันล้านบาท โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสด และเงินกู้สถาบันการเงินในการลงทุน ซึ่งเราคาดว่าโครงการ Mixed-use ทองหล่อ ซ.4 จะเป็น Cash cow ตัวใหม่ของ SF นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจรจากับกลุ่มทุนที่ถือที่ดินใกล้กับโครงการเพื่อพัฒนาเป็น Mixed-use ขนาดใหญ่