BH - ซื้อเก็งกำไร

BH - ซื้อเก็งกำไร

กำไรไตรมาส 1/62 ดีที่สุดเป็นลำดับสามในประวัติกาล; เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 2/62

ผลประกอบการเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด

BH รายงานกำไรหลักอยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท สำหรับไตรมาส 1/62 (ผลประกอบการรายไตรมาสดีที่สุดอันดับสามในประวัติกาล) ทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้น 11% QoQ ผลประกอบการสอดคล้องกับเราและตลาดคาดการณ์

ประหลักผลประกอบการ

แม้ว่าจะมีฐานที่สูงจากผลประกอบการในไตรมาส 1/61 (กำไรหลักสูงที่สุดอันดับสองของ BH) BH ยังสามารถคงกำไรแข็งแกร่ง YoY กำไรหลักเติบโต QoQ หนุนโดยอัตรากำไรหลักขยายตัว รายได้การแพทย์ทรงตัว YoY และQoQ ที่ 4.7 พันล้านบาท (แบ่งเป็นผู้ป่วยต่างชาติ 67% และผู้ป่วยไทย33%) รายได้ผู้ป่วยต่างชาติสูงขึ้น 2.3% YoY ซึ่งกลบกับรายได้ผู้ป่วยไทยที่หดตัว 4.0% YoY อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการแพทย์ของ BH แข็งแกร่งที่สุดอันดับสองที่ 46.3% ในไตรมาส 1/62 สูงขึ้นจาก 44.8% ในไตรมาส
1/61 แต่สูงขึ้นจาก 19.2% ในไตรมาส 4/61 ดังนั้น อัตรากำไรหลักอยู่ที่23.3% ในไตรมาส 1/62 ลดลงเล็กน้อยจาก 23.5% ในไตรมาส 1/61 และเพิ่มขึ้นจาก 20.5% ในไตรมาส 4/61 BH ยังคงรักษาระดับเงินสดสุทธิ ณสิ้นเดือนมี.ค.

แนวโน้ม

เราคาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 2/62 ทรงตัว YoY และลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน อุปสงค์ทางการแพทย์ในเดือนเม.ย.-มิ.ย.โดยปกติจะเป็นจุดต่ำที่สุดของปี ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุด รายได้การแพทย์จะสูงขึ้นเล็กน้อย YoY และ ลดลง 7-10% QoQ อัตรากำไรหลักคาดว่าทรงตัวYoY และลดลงเล็กน้อย QoQ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายพิเศษสำหรับพนักงานเกษียณอายุ (เราคาดว่าค่าใช้จ่ายหลักหักภาษีอยู่ที่ 111 ล้านบาท) หลังจากการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/62 เราประมาณการว่าอัตราเงินปันผลต่อหุ้นระหว่างกาลอยู่ที่ 1.00 บาท สำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อัตราผลตอบแทนเบื้องต้นคิดเป็น 0.6% (ขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนส.ค.; จ่ายในเดือนก.ย.)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรหลักไตรมาส 1/62 คิดเป็น 25% ของประมาณการเต็มปีของเรา นักลงทุนสามารถเชื่อมั่นในการเติบโตตามปกติของธุรกิจและอัตรากำไรที่สูงได้ ทั้งนี้การประมาณการของเราบ่งชี้ว่ากำไรหลักเติบโตตามปกติอยู่ที่ 4%สำหรับปี 2562 หนุนโดยการขยายตัวของรายได้การแพทย์อยู่ที่ 2% และกำไรหลักขยายตัว 40bps เนื่องจากการควบคุมต้นทุน, การ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และการเพิ่มสัดส่วนเคสรักษาที่มีอัตรากำไรสูง ทั้งนี้โครงการ“Beta project” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด(มหาชน) คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส1/63 ซึ่งจะสร้างการเติบโตของกำไรที่น่าตื่นเต้นในปี 2564 เป็นต้นไป

คำแนะนำ

มูลค่าของ BH เป็นระดับที่ดีที่จะกลับเข้าไปลงทุนด้วย PER ปี 2562 ที่ 30.1 เท่า ต่ำกว่า 9% ของค่าเฉลี่ยการแพทย์ทั่วโลกที่ 32.9 เท่า บริษัท ยังมีมูลค่าสินทรัพย์แฝงจากที่ดินในสุขุมวิท ซอย 1 และที่ดินขนาดใหญ่บนถ.เพชรบุรี ดังนั้นเราจึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 208 บาท (คิดลด 10% จากประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF, WACC อยู่ที่ 7.5%,terminal growth rate อยู่ที่ 2.0%)