EA ลมสะพัดลุย COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม 'โครงการหนุมาน9' เพิ่ม 42 MW 

EA ลมสะพัดลุย COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม 'โครงการหนุมาน9' เพิ่ม 42 MW 

กดปุ่มสตาร์ทเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 584 เมกะวัตต์ เผยอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโครการหนุมาน10 ในเร็วๆนี้

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ  EA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 บริษัทได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน 9 ซึ่งมีกำลังการผลิต 42  เมกะวัตต์ นับเป็นโครงการย่อยแห่งที่ 4 ภายใต้โครงการหนุมาน ส่งผลให้เมื่อรวมกับกำลังการผลิตเดิมทั้งหมดในไตรมาส1/62 มีขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่ 584 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 80 เมกะวัตต์เป็นส่วนของโครงการหนุมาน 10 ซึ่งคาดว่าจะCODได้เร็วๆนี้ โดยจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทในปีนี้แตะ664 เมกะวัตต์ 

"ภาพรวมการCODโรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในไตรมาสแรกปีนี้มีการ COD มาแล้วสามรอบ รอบแรกเมื่อวันที่ 25 มกราคม COD หนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 90 เมกะวัตต์ รอบที่สองเมื่อวันที่ 22 มีนาคม COD หนุมาน 5 กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และครั้งนี้เมื่อวันที่ 30 มีนาคม COD หนุมาน 9 กำลังการผลิต 42 เมกะวัตต์ ทำให้ ณ ปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมรวมกันได้584 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือในโครงการหนุมาน 10ก็น่าจะได้เห็นการCODเร็วๆนี้ ทำให้ในปีนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น664เมกะวัตต์"

สำหรับความคืบหน้าของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้านั้น EAได้ส่งบริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MMC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้นสัดส่วน 99.99% เพื่อประกอบธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ MINE Mobility ซึ่งนอกจากจะประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว MINE SPA1 ในงาน Bangkok International Motor Show 2019 เป็นอย่างมากแล้ว ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด กลุ่มผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) เพื่อตกลงให้จองสิทธิซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) และอะไหล่ จำนวน 3,500 คันโดยทางสหกรณ์ฯ จะนำไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง เพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิกของสหกรณ์ อีกทั้งยังตกลงใช้บริการชาร์จไฟฟ้าจากสถานีชาร์จของกลุ่ม EA ที่ได้ลงทุนเตรียมไว้อำนวยความสะดวกล่วงหน้าแล้วภายใต้ชื่อสถานีชาร์จ EA Anywhere จึงจะได้เห็นธุรกิจในกลุ่ม EA ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด ลดมลพิษได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น