‘ซีอาร์จี-ไมเนอร์ฟู้ด" เปิดศึกดิลิเวอรี่ รวมแบรนด์สั่งเบอร์เดียวเขย่าคู่แข่ง

ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุค “ฟู้ดดิสรัป” มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจคู่ขนานทั้งการเร่งขยายเครือข่ายสาขาพร้อมใช้แพลตฟอร์ม “ออนไลน์”  ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ และแอพพลิเคชั่น พร้อมบริการดีลิเวอรี่ หรือ  “ส่งตรงถึงบ้าน” เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมความสะดวก โดยบริการ “ดีลิเวอรี่” ที่ผ่านมาอยู่ในรูปแบบ “เบอร์เดียว-แบรนด์เดียว” 

ล่าสุดถูกยกระดับสร้างพลังดึงดูดลูกค้าและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือคู่แข่งด้วยการ “รวมแบรนด์” ในเครือข่ายให้ลูกค้าสามารถสั่งได้ผ่าน “เบอร์เดียว” เป็นเกมรุกระลอกใหม่ของ 2 ยักษ์ใหญ่นำร่องโดยไมเนอร์ฟู้ด และกลุ่มเซ็นทรัลภายใต้ “ซีอาร์จี” 

นายพอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เบอร์เกอร์ คิง, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ไทย เอ็กซ์เพรส, ริเวอร์ไซด์ และ เบนิฮานา กล่าวว่า ตลาดบริการส่งตรงถึงบ้าน หรือดีลิเวอรี่ในประเทศไทยมีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองและคนรุ่นใหม่ 

“ไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ป สะสมประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ในธุรกิจดีลิเวอรี่มากว่า 30 ปี ทำความเข้าใจความต้องการผู้บริโภค รวมทั้งคู่แข่ง วันนี้พร้อมเปิดเกมรุกด้วยการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น 1112Delivery  เพิ่มช่องทางในการให้บริการลูกค้าให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการขยายสาขาครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ และบริการผ่านโซเชียลมีเดียอื่นๆ”

แอพพลิเคชั่น 1112Delivery จะรวมบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจาก 7 แบรนด์ในเครือไมเนอร์ฟู้ด ประกอบด้วย เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เบอร์เกอร์ คิง, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน, เดอะ คอฟฟี่ คลับ และ ไทย เอ็กซ์เพรส สามารถสั่งได้ในครั้งเดียว นำร่องให้บริการ นำร่องให้บริการจัดส่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา พบการตอบรับที่ดี

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันแอพพลิเคชั่น 1112Delivery มียอดดาวน์โหลด 20,000 ราย ตั้งเป้า 1 ล้านรายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันเดินหน้าขยายเฟสบริการดีลิเวอรี่ 7 แบรนด์ในครั้งเดียวต่อไปในหัวเมืองใหญ่ไล่ตั้งแต่ภาคตะวันออก, เหนือ, ใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในเดือน มิ.ย.คาดครอบคลุมทุกพื้นที่ 

“การรวม 7 แบรนด์ให้ลูกค้าสามารถสั่งได้พร้อมกันในครั้งเดียวนับเป็นครั้งแรกของโลกที่จะได้รับบริการทั้งอาหารไทย อินเตอร์เนชั่นแนล เครื่องดื่ม”

ทั้งนี้ไมเนอร์ฟู้ด กรุ๊ป ได้ลงทุนประมาณ 40 ล้านบาทในการเตรียมพร้อมประสิทธิภาพของระบบ  บรรจุภัณฑ์ และบุคลากร เพื่อสามารถบริการลูกค้าได้สะดวก รวดเร็ว ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด โดยปัจจุบันมีเครือข่ายพนักงานจัดส่งกว่า 3,000 คนทั่วประเทศ อยู่ในกรุงเทพฯ ราว 2,000 คน 

แผนรุกดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันยอดขายธุรกิจดีลิเวอรี่ของไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ปเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ในปีนี้  หรือมีรายได้อยู่ที่ 4,500 ล้านบาท สร้างพอร์ตธุรกิจดีลิเวอรี่ใหญ่ขึ้นจากปัจจุบันแบรนด์เดอะพิซซ่า คอมปะนี สร้างรายได้หลักจากบริการส่งตรงถึงบ้าน หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% ราว 3,000 ล้านบาทจากยอดขายรวมเดอะพิซซ่า คอมปะนี อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท 

ปัจจุบัน ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฟู้ด เปิดให้บริการทั่วโลก 2,270 สาขา ใน 27 ประเทศ จำนวนดังกล่าวเปิดบริการในประเทศไทย 1,500 สาขา เป็นร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี 395 สาขา ร้านสเวนเซ่น 289 สาขา ร้านซิซซ์เลอร์ 55 สาขา ร้านแดรี่ควีน 501 สาขา ร้านเบอร์เกอร์คิง 103 สาขา ร้านเดอะ คอฟฟี่คลับ 51 สาขา ร้านไทยเอ็กซ์เพรส 14 สาขา ร้านเบนิฮาน่า 3 สาขา และอื่นๆ อีกประมาณ 89 สาขา

แผนธุรกิจปี 2562 โดยภาพรวมจะมีการขยายสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ ทำกิจกรรมการตลาด ส่งเสริมการขาย อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าเกมรุกในปีนี้จะผลักดันยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากยอดขายรวม 44,000 ล้านบาทในปีก่อน 

ทางด้าน บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ผู้นำธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย (Food Chain Industry) ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ธุรกิจร้านอาหารในเครือมากถึง 11 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, ชาบูตง, โคลสโตน ครีมเมอรี่, เดอะเทอเรส, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ และคัตสึยะ ได้ทำการเปิดตัวหมายเลขใหม่ “1312 สั่งครั้งเดียว อร่อยหลายร้าน” ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความหลากหลายด้วยบริการจัดส่งมื้ออร่อยให้ลูกค้าได้หลายแบรนด์ในเครือซีอาร์จีในการสั่งอาหารเพียงครั้งเดียว

โดยช่วงแรกของการเปิดบริการนี้ เริ่มในพื้นที่ศักยภาพย่านอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีร้านอาหารในเครือซีอาร์จีเพื่อเป็นศูนย์กลางการจัดส่งอาหาร อาทิ อโศก สุขุมวิท ลาดพร้าว บางนา และปิ่นเกล้า ซึ่งได้มีการผนึกพันธมิตรกับผู้นำด้านบริการดีลิเวอรี่ ทั้งไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า อูเบอร์ อีทส์ และ แกร็บฟู้ด ในการพัฒนาระบบดีลิเวอรี่ให้ลูกค้าสั่งอาหารจากแบรนด์ต่างๆ ในเครือได้หลายแบรนด์ในการสั่ง 1 ครั้ง

ล่าสุดกลุ่มเซ็นทรัลได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์่กับ แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ผู้นำแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ลงทุนด้านดิจิทัลใน “แกร็บ ประเทศไทย” เสริมศักยภาพธุรกิจ ซึ่งแกร็บ  มีบริการหลากหลายที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย โดยเฉพาะทางด้านอาหาร และเพย์เมนท์ 

ความร่วมมือในเฟสแรกเริ่มจาก “บริการส่งอาหาร“ จากร้านอาหารและแบรนด์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ผ่านบริการ ”แกร็บฟู้ด“ เพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมเพิ่มความหลากลายของเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มในเครือซีอาร์จีนั่นเอง