อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซัด 'ธนาธร' ส่อดูหมิ่นศาล เสี่ยงผิด6กระทง

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซัด 'ธนาธร' ส่อดูหมิ่นศาล เสี่ยงผิด6กระทง

"ชูชาติ ศรีแสง" อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ชี้ "ธนาธร" ส่อกล่าวหาและดูหมิ่นองค์คณะผู้พิพากษาคดี "ทักษิณ" อย่างร้ายแรงที่สุด เสี่ยงผิด 6 กระทง หากถูกดำเนินคดีอย่าโวยวายกล่าวหาเผด็จการแกล้ง

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 62 เวลา 18.59 น. นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chuchart Srisaeng ระบุว่า .....นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก และมีคดีที่กำลังพิจารณาอยู่อีกหลายคดีว่า

.....คดีอาญาที่ฟ้องนายทักษิณทำขึ้นในรัฐบาลทหาร จึงขอเสนอว่าต้องคืนความยุติธรรมให้เขา เอาทักษิณกลับมา นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รื้อคดีต่างๆ พิจารณาคดีต่างๆ ใหม่และผู้พิพากษาต้องเป็นกลาง ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดนายทักษิณ มีสิทธิที่จะต่อสู้คดีภายใต้กระบวนการและศาลที่เป็นธรรม

.....การที่นายธนาธรกล่าวว่า ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดนายทักษิณ จึงต้องรื้อคดีต่างๆ ใหม่ขึ้นมาให้นายทักษิณต่อสู้คดีในศาลที่เป็นธรรมและผู้พิพากษาต้องเป็นกลาง

.....ย่อมหมายความว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่มีความเป็นธรรมและองค์คณะพิพากษา 9 ท่าน ที่พิจารณาพิพากษาคดีที่นายทักษิณถูกฟ้องเป็นจำเลย ไม่เป็นกลางเพราะถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดนายทักษิณ

.....นายธนาธรต้องพูดให้ชัดเจนโดยมีพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า องค์คณะผู้พิพากษา 9 ท่าน ที่พิจารณาและพิพากษาคดีที่นายทักษิณถูกฟ้องเป็นจำเลยแต่ละคดีมีพฤติการณ์ที่ไม่เป็นกลางอย่างไรและคำพิพากษาในคดีนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ยุติธรรมอย่างไร มีเหตุผลและหลักฐานอะไรมาอ้างอิง

.....ไม่ใช่พูดลอยๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริงอะไร เพียงเป็นการพูดเพื่อเอาใจบุคคลบางคนบางกลุ่มและอาจเพื่อหวังผลในทางการเมืองเท่านั้น

.....คดีที่ดินรัชดาที่นายทักษิณกับภริยาถูกฟ้องเป็นจำเลย ศาลพิจารณาพิพากษาคดีในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชนของนายทักษิณเป็นรัฐบาล ทนายความนำเงินจำนวน 2 ล้านบาท ไปให้เจ้าหน้าที่ศาล แต่เจ้าหน้าที่ศาลไม่รับ และทนายความของนายทักษิณถูกลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน คดีนั้นศาลพิพากษาลงโทษจำคุกนายทักษิณแต่ให้ยกฟ้องภริยานายทักษิณ

.....คดียุบพรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์ นายตำรวจยศพันตำรวจเอกไปวิ่งเต้นตุลาการรัฐธรรมนูญเสนอให้เงิน 20 ล้านบาท เพื่อให้ช่วยพรรคไทยรักไทย แต่ได้รับการปฏิเสธ และนายตำรวจคนนั้นถูกดำเนินคดีจนถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี

.....นี่คือคดีที่มีหลักฐานชัดเจนว่า มีการวิ่งเต้นให้สินบนเจ้าหน้าที่ศาลและผู้พิพากษา ส่วนที่มีข่าวว่าคดีอื่นๆ ก็มีการวิ่งเต้นให้สินบนผู้พิพากษาเช่นเดียวกัน แต่เมื่อไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันจึงไม่ขอกล่าวถึง

.....องค์คณะผู้พิพากษาในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำนวน 9 ท่าน ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ซึ่งประกอบด้วย ผู้พิพากษาที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้พิพากษาศาลฎีกาขึ้นไปและผู้พิพากษาอาวุโสที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ศาลฎีกาจำนวนกว่า 100 ท่าน เป็นผู้เลือกโดยการลงคะแนนลับ

.....นายธนาธรคิดหรือว่า จะมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดสามารถสั่งผู้พิพากษาระดับสูงสุดของศาลยุติธรรมที่เข้าประชุมใหญ่จำนวน 100 ท่านเศษให้เลือกผู้พิพากษาท่านหนึ่งท่านใดเป็นองค์คณะในคดีหนึ่งคดีใดได้ และเมื่อได้องค์คณะ 9 ท่านแล้วคิดหรือว่า จะสั่งให้องค์คณะผู้พิพากษากระทำอย่างหนึ่งอย่างใดได้ เหมือนที่นายธนาธรสั่งพนักงานในบริษัท หรือในพรรคอนาคตใหม่

.....องค์คณะผู้พิพากษา 9 ท่าน แม้จะไม่มีทรัพย์สินมากมาย เหมือนนายธนาธร แต่ก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีพอที่จะไม่รับเงินสิน บนจากใครหรือฟังคำสั่งจากผู้ใด เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีเบี่ยงเบนไปจากพยานหลักฐานในสำนวนและปราศจากความยุติธรรม

.....ถ้าสามารถวิ่งเต้นองค์คณะผู้พากษาได้ พรรคไทยรักไทยคงไม่ถูกยุบ นายทักษิณกับทนายของนายทักษิณก็คงไม่ถูกลงโทษจำคุก และนายทักษิณคงไม่ถูกริบทรัพย์เป็นเงิน 46,000 ล้านบาทเศษ

.....นายธนาธรกล่าวว่าการที่นายทักษิณถูกลงโทษเป็นการไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้พิพากษาไม่เป็นกลาง

.....ดังนั้น ถ้าองค์คณะผู้พิพากษายอมรับเงินสินบน แล้วพิพากษายกฟ้องไม่ลงโทษนายทักษิณและไม่ริบทรัพย์ของนายทักษิณ นายธนาธรก็คงกล่าวว่านายทักษิณก็ได้รับความเป็นธรรมและองค์คณะผู้พิพากษาเป็นกลางแล้วใช่ไหม

....คำกล่าวของนายธนาธรที่ว่า ศาลไม่มีความเป็นธรรมและองค์คณะผู้พิพากษาที่พิจารณาพิพากษาคดีที่นายทักษิณถูกฟ้องเป็นจำเลย ไม่เป็นกลางเพราะถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดนายทักษิณนั้น

.....เป็นการกล่าวหาและดูหมิ่นองค์คณะผู้พิพากษาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิจารณาพิพากษาคดีที่นายทักษิณถูกฟ้องเป็นจำเลยอย่างร้ายแรงที่สุด

.....และเข้าข่ายมีความผิดฐานดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

.....นายทักษิณถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 6 คดี เมื่อนายธนาธรกล่าวหาและดูหมิ่นองค์คณะผู้พิพากษาทุกคดีก็ย่อมเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 6 กระทง

.....ถ้านายธนาธรถูกดำเนินคดีก็อย่าโวยวายและกล่าวหาว่าถูกเผด็จการกลั่นแกล้งเลย เพราะนายธนาธรเป็นผู้พูดด้วยตนเองและชัดถ้อยชัดคำ