เปิดปมขัดแย้ง‘อินเดีย-ปากีสถาน’

เปิดปมขัดแย้ง‘อินเดีย-ปากีสถาน’

การเผชิญหน้ากันยังถือเป็นความท้าทายด้านนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ที่รับตำแหน่งเมื่อปีก่อนและพยายามเจรจากับอินเดีย

ความสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้าน “อินเดีย-ปากีสถาน” ตึงเครียดขึ้นอีก หลังจากอินเดียโจมตีทางอากาศในดินแดนปากีสถาน และปากีสถานตอบโต้ด้วยการยิงเครื่องบินรบอินเดียตก 2 ลำในแคชเมียร์ พร้อมทั้งสั่งปิดน่านฟ้าทั้งประเทศ ขณะที่อินเดียสั่งปิดสนามบินทางเหนือจนสหรัฐต้องเตือนสองชาติที่ต่างก็มีนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งคู่ขอให้อดทนอดกลั้น

ความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างอินเดียกับปากีสถานปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. จากเหตุระเบิดพลีชีพในแคชเมียร์ ดินแดนแถบหิมาลัยที่ต่างฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ ระเบิดพลีชีพคร่าชีวิตทหารอินเดีย 40 นาย

รัฐบาลนิวเดลีประกาศตอบโต้ ด้วยการส่งเครื่องบินรบเข้าไปในน่านฟ้าปากีสถาน เมื่อวันอังคาร (26 ก.พ.) ถล่มค่ายกลุ่มจาอิช อี โมฮัมเหม็ด (เจ็ม) ที่อ้างว่าอยู่เบื้องหลังระเบิดแคชเมียร์

ซุสมา สวาราชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แจ้งกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและรัสเซียว่า การชิงลงมือโจมตีก่อนโดยหวังผลจำกัดกระทำได้อย่างแม่นยำ จัดการกับโครงสร้างพื้นฐานของจาอิช อี โมฮัมเหม็ด เพื่อป้องกันไม่ให้มาโจมตีก่อการร้ายในอินเดียได้อีก

ด้านรัฐบาลอิสลามาบัด ที่ปฏิเสธว่าการโจมตีของอินเดียไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หรือมีผู้เสียชีวิต ก็ประกาศว่าจะเอาคืนแน่นอน ยิ่งทำให้หวั่นเกรงกันว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากันในเอเชียใต้

ดินแดนแคชเมียร์เป็นชนวนให้สองชาติทำสงครามกันมาแล้ว 2 ครั้ง และสู้รบเล็กๆ น้อยๆ กันอีกนับไม่ถ้วน แต่น้อยครั้งมากที่ทหารบกหรือทหารอากาศจะข้ามเส้นแห่งการควบคุม (แอลโอซี) ที่มีทหารดูแลอย่างเข้มข้น ถือเป็นพรมแดนโดยพฤตินัยระหว่างสองคู่อริ

การสู้รบย้อนอดีตไปได้ถึงปี 2490 ที่เกิดสงครามขึ้นครั้งแรก หลังจากอนุทวีปนี้แยกเป็นอินเดียกับปากีสถานมหาราชาแห่งแคชเมียร์ยอมรับอินเดีย ขณะที่นักรบชนเผ่าจากปากีสถานเปิดการโจมตี ปี 2508 สองชาติทำสงครามกันครั้งที่ 2 เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนประกาศสงบศึก ปี 2514 อินเดียกับปากีสถานทำสงครามกันอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เรื่องแคชเมียร์ แต่เป็นเรื่องการปกครองปากีสถานตะวันออกของรัฐบาลอิสลามาบัดนิวเดลีสนับสนุนนักชาตินิยมเบงกอลที่ต้องการแยกประเทศเป็นบังกลาเทศ กองทัพอากาศอินเดียจึงช่วยโจมตีในปากีสถาน

ปี 2527 ทหารอินเดียยึดธารน้ำแข็งเซียเชน พื้นที่สูงไร้ผู้คนในเทือกเขาคาราโครัม ที่ปากีสถานอ้างกรรมสิทธิ์อยู่ด้วย ทั้งสองประเทศปะทะกันหลายครั้ง ถือเป็นการสู้รบบนพื้นที่สูงครั้งแรกก่อนลงนามหยุดยิงในปี 2546

ปี 2542 กลุ่มติดอาวุธที่ปากีสถานหนุนหลังข้ามพรมแดนแคชเมียร์เข้ามายึดป้อมทหารอินเดีย บนเทือกเขาคาร์จิล ทหารอินเดียผลักดันผู้บุกรุกถอยไปได้ สิ้นสุดความขัดแย้ง 10 สัปดาห์ที่ทั้งสองฝ่ายต้องสังเวย 1,000 ชีวิต

ก.ย.2559 อินเดียเปิดการโจมตีเฉียบขาด พุ่งเป้าแคชเมียร์ปากีสถาน ตอบโต้ที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์กลุ่มติดอาวุธเล่นงานค่ายทหารอินเดีย ทหารเสียชีวิต 19 นาย แต่ปากีสถานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมาในเดือน พ.ย. ทหารอินเดียถูกกลุ่มติดอาวุธสังหารอีก 7 นาย

ปี 2559 กองกำลังกึ่งทหารอินเดียถูกโจมตีพลีชีพในเขตแคชเมียร์ของอินเดีย เสียชีวิตอย่างน้อย 40 นาย รัฐบาลนิวเดลีกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเจ็ม

สำหรับความขัดแย้งรอบใหม่"ไมค์ ปอมเปโอ"รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 2 คู่กรณีแล้ว แถลงเรียกร้องให้ทั้งอินเดียและปากีสถานอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงสถานการณ์บานปลายที่จะทำให้เกิดความเสียหายตามมา เช่นเดียวกับเสียงเรียกร้องจากจีนและสหภาพยุโรป

“หากผมเป็นวอชิงตัน ผมจะกระหน่ำโทรศัพท์และส่งสัญญาณว่าอยากให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลงเดี๋ยวนี้ ยอมเสี่ยงเล่นบทนี้จะได้ผลยิ่งใหญ่มาก”โมอีด ยูซุฟผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสันติภาพในกรุงวอชิงตันให้ความเห็น