'ดีแทค' พลิกขาดทุนปี 61 กว่า 4.3 พันล้าน

'ดีแทค' พลิกขาดทุนปี 61 กว่า 4.3 พันล้าน

“ดีแทค” พลิกขาดทุน 4.3 พันล้านบาท เหตุบันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อระงับข้อพิพาทกับ กสท. วางแผนปีนี้ลงทุนเพิ่ม 1.3 หมื่นล้านบาทพัฒนาเครือข่าย

บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) แจ้งผลการดำเนินงานงวด 1 ปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2561 ปรากฎว่า ขาดทุนสุทธิจำนวน 4,368 ล้านบาท หรือ 1.85 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่กำไรสุทธิ 2,114 ล้านบาท หรือ 0.89 บาทต่อหุ้น โดยเป็นผลจากการบันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อการระงับข้อพิพาทกับ กสท.

สำหรับปี 2561 รายได้จากการให้บริการของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูง ในขณะที่ความไม่แน่นอนในประเด็นเรื่องการหมดอายุสัญญาสัมปทานได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในปี 2561 ลดลง 2.8% จากปีก่อน สอดคล้องกับประมาณการที่คาดไว้

ในขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA (ก่อนรายการอื่น) ของบริษัทอยู่ที่ 28,391 ล้านบาทลดลง 6.7% จากปีก่อนโดยส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากรายได้จากการให้บริการที่ลดลง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการโรมมิ่ง 4G บนโครงข่ายคลื่นความถี่ 2300MHz ที่จ่ายให้กับบมจ.ทีโอที และค่าใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่จ่ายให้บมจ. กสท.โทรคมนาคมโดย EBITDA margin ของปี 2561 อยู่ที่ระดับ 37.9% สอดคล้องกับประมาณการที่คาดไว้
ดีแทคระบุว่า ในปี 2562 บริษัทจะให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายและ ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าให้ดีขึ้นรวมทั้งจะสร้างสรรค์ข้อเสนอและให้บริการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น บริษัทจะพัฒนาแบรนด์ดีแทคให้แข็งแกร่งขึ้นและนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ให้ลูกค้ารับรู้

ในปี 2562 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในช่วง 13,000 ถึง 15,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าให้ดีขึ้น รวมทั้งมีความปรารถนาที่จะกลับมาเติบโตพร้อมทั้งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2561 บริษัทมีฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.2 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 1.5 ล้านเลขหมายจากปีก่อนอันเป็นผลจากการลดลงของฐานลูกค้าระบบเติมเงินในขณะที่การเติบโตของฐานลูกค้าระบบรายเดือนช่วยชดเชยได้บางส่วน โดยฐานลูกค้าระบบเติมเงินมีจำนวนอยู่ที่ 15.1 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 1.9 ล้านเลขหมายจากปีก่อนอันเป็นผลจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูงและการเปลี่ยนลูกค้าจากระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือน ในขณะที่ฐานลูกค้าระบบรายเดือนมีจำนวนเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 6.1 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 0.4 ล้านเลขหมายจากปีก่อน

ทั้งนี้ แนวโน้มฐานลูกค้ารวมของบริษัทในไตรมาส 4/2561 เริ่มปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาโดยมีปัจจัยจากแคมเปญเครื่องโทรศัพท์และโปรโมชั่นบริการเสริมในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่รวมทั้งมีการสื่อสารกับลูกค้าถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง