เปิดใจ! เสพยาฯแต่ไม่ค้า บทเรียนราคาแพง พ้นคุกมุ่ง'พี่สอนน้อง'

เปิดใจ! เสพยาฯแต่ไม่ค้า บทเรียนราคาแพง พ้นคุกมุ่ง'พี่สอนน้อง'

ดาราสาว "เอมี่" ลั่นไม่เคยยุ่งเกี่ยวค้ายาแต่รับเสพจริง ได้รับโทษบทเรียนราคาแพงแล้ว เปิดใจยาเสพติดทำชีวิตพัง หลังพ้นคุกเตรียมร่วมทีมทนายตั้ม ก้าวสู่โครงการพี่สอนน้อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2561 ที่สำนักงานกฎหมายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่หมู่ที่ 3 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือ เอมี่ อดีตดาราสาวชื่อดังจากละครเรื่อง ธิดาวานร พร้อมครอบครัว ได้ร่วมกันแถลงข่าว บทเรียนราคาแพง หลังจากที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ยกฟ้องข้อหาครอบครองยาไอซ์ 70 กรัม เพื่อจำหน่าย คงเหลือแต่โทษเสพยาเสพติด จำคุก 3 เดือน และ ปรับ 5,000บาท โดยให้รอการลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี แต่ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือน/ครั้ง มีกำหนด 1 ปี และให้ทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายตั้ม เผยว่าหลังจากที่ เอมี่ถูกจับกุมแล้วนั้น ทางครอบครัวก็ได้ขอให้ทีมงานทนายประชาชน เข้าช่วยในการเดินหน้าต่อสู้คดีในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งทางเอมี่ยอมรับว่าเสพยาเสพติดจริง แต่ไม่เคยค้ายาเสพติด ดังนั้นจึงได้ต่อสู้ในประเด็นนี้มาตลอดและมีการพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งศาลมีนบุรี พิจารณาแล้วเห็นว่าสมควรยกฟ้องข้อหาครอบครองยาไอซ์ 70 กรัม คงเหลือแต่โทษเสพเท่านั้น ที่เอมี่ยอมรับมาตลอดว่าเสพจริง และวันนี้ก็ถือว่าเป็นวันฟ้าใหม่ของเอมี่ ที่ได้พ้นโทษออกจากเรือนจำ กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัว

ด้าน น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือ เอมี่ เปิดใจว่า ที่ผ่านมาตนเองหลงผิดไปเสพยาเสพติด ซึ่งไม่ขอกล่าวโทษใครทั้งนั้น เพราะถ้ามีใครนำมาให้แต่ตนไม่สนใจไม่ริอยากลอง อยากรู้ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และก็คงไม่ต้องจบอนาคตแบบนี้ ซึ่งตนเองต้องขอโทษพ่อแม่ ผู้มีพระคุณในวงการบันเทิง และสังคมด้วย ที่ตนทำตนเป็นคนไม่ดี โดยทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดอย่างแน่นอน แต่ถ้าเสพติยาเสพติดนั้นเสพจริง และก็ได้รับโทษเป็นบทเรียนราคาแพงแล้ว พร้อมกันนี้ก็ขอขอบคุณทางทนายตั้มที่ให้ความช่วยเหลือ จนศาลพิจารณายกฟ้องในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด

"ขอขอบคุณสังคมที่ให้โอกาสตนให้ได้กลับมาทำตนเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอีกครั้ง โดยหลังจากนี้ตนก็จะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดภูเก็ตและเดินหน้าทำงานร่วมกับทีมทนายประชาชนในการเข้าไปให้ความรู้แก่นักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ในโครงการพี่สอนน้อง เพื่อสอนให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้โทษภัยของยาเสพติด และชีวิตที่ไม่สวยหรูในเรือนจำ ส่วนเรื่องของการกลับเข้าสู่วงการบันเทิงนั้นยังไม่คิดถึง ขอทำงานเพื่อสังคมกับทีมงานทนายประชาชนในโครงการพี่สอนน้องก่อน"